
Talk with Expert Ep.5 Freelance ลด Workload เพิ่ม Productivity
สื่อสารอย่างลงตัว
ไม่ต้องกังวลเรื่องการปิดกั้น contact เนื่องจากสามารถพูดคุยกับ dev ได้เต็มที่
ไม่ต้องเสีย long-term fix cost
เปลี่ยนค่าใช้จ่ายเป็น flexible cost
มีโปรเจกต์ เริ่มจ้าง และจบงานในทันที
ลด Workload ของ Full-time
Talance สามารถช่วยลด Workload ของทีมได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
HIGHLIGHT
- สื่อสารอย่างลงตัว
- เติมเต็มโปรเจกต์ด้วยฟรีแลนซ์
- ทำงานกับฟรีแลนซ์แล้วเวิร์ค
- เทคนิคติดตามงาน
- Flexible ตอบโจทย์แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
- หาคนเก่งจาก Talance หรือหาเองต่างกันไหม
- ข้อแนะนำเพิ่มเติม
IM IMPOWER จะมาพูดถึง ข้อดีของการจ้าง Freelance ผ่าน Talance แน่นอนว่าโปรเจกต์ระยะสั้นนั้นการจ้าง Freelance Developer มักจะตอบโจทย์ในเรื่องต่าง ๆ มากกว่าการจ้าง Full-time Developer เช่น ระยะเวลาการคัดเลือกโปรแกรมเมอร์ ค่าใช้จ่าย ความสามารถ ประสบการณ์ทำงาน ซึ่งในบางทีนั้นการตามหา “คนที่ใช่” ด้วย Full-time นั้นอาจะไม่ตอบโจทย์หรือเวิร์คเสมอไป
ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ครั้งนี้เราได้พูดคุยกับองค์กร IM IMPOWER หนึ่งในผู้ใช้บริการของ Talance โดยในวันนี้จะเข้ามาบอกเล่าและพูดคุยเกี่ยวกับการจ้างฟรีแลนซ์ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มโปรเจกต์ระยะสั้น รวมถึงทำไมการจ้างฟรีแลนซ์ถึงเวิร์คกว่าการจ้าง Full-time Developer
สื่อสารอย่างลงตัว
แน่นอนว่าการสื่อสารระหว่างทีมเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกัน ซึ่งหากมีการสื่อสารที่ลงตัวแล้วก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพทีมและมีความคิดเห็นไปทางเดียวกันจนกระทั่งสามารถจบโปรเจกต์โดยมีการแก้ไขงานอย่างน้อยที่สุด
“ผมเจอโฆษณาบน Facebook ก็เลยสนใจ แต่ละคนก็งานยุ่ง เวลาจะสร้างฟีเจอร์ใหม่ให้กับเว็บของเรามันก็กินระยะเวลานานกว่าที่โปรเจกต์จะจบลง ก็เลยคุยกันกับทีมว่าอยากจะจ้างคนภายนอกเข้ามาซึ่งต้องการคนที่มีความรู้พอสมควร ไม่อยากทำให้โค้ดเก่าเละ และที่สำคัญคือจะต้องสื่อสารกับทีมของเราได้อย่างลงตัว”
เติมเต็มโปรเจกต์ด้วยฟรีแลนซ์
เนื่องด้วยเป็นฟีเจอร์เล็ก ๆ ก็เลยไม่มีความคิดว่าต้องจ้าง Full-time Developer เข้ามารับงานนี้ เพราะว่ามันเป็นเพียง Workload ของทีมที่เกินกำลังในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ก็เลยอยากจะหาคนเข้ามาซัพพอร์ตตรงนี้
ที่ผ่านมาเคยลองคิดจะใช้แพลตฟอร์มการจ้างฟรีแลนซ์ชื่อดังหรือว่าตามหาตามคอนเนคชั่น แต่อีกแพลตฟอร์มนั้นยังไม่เวิร์คเท่าไหร่ในการหา Developer เนื่องจากป้องกันไม่ให้บริษัทเข้าไปคุยกันในแพลตฟอร์มอื่นเลย เช่น ห้ามแลก LINE, ห้ามแลก Contact หรือห้ามดึงคนเข้าไปในโซเชียลแอปอื่น ๆ เลย
“ไม่ตอบโจทย์การทำงานเป็นทีมมาก ๆ เนื่องจากผมมีทีมอยู่ใน Github 4-5 คน ก็ไม่สามารถที่จะติดต่อกันได้สะดวก”
ทั้งนี้เคยทดลองจ้าง Developer เข้ามาโดยใช้ connection หรือช่องทางอื่น ซึ่งของ Talance ที่รู้สึก Happy มากกว่า ทีนี้ก็เลยทำให้การจ้าง Talance สามารถได้งานได้ไว โดยหากไปจ้างข้างนอกหรือเจ้าอื่นจะรู้สึกไม่เวิร์คเนื่องจากจะมีปัญหางานช้า งานแช่ หรือจัดลำดับงานของเราไว้ต่ำที่สุดเสมอ
“การทำงานผ่าน tool อื่น ๆ ที่ต้องทำงานเป็นทีม เท่าที่ทดลองมาทั้งหมดรู้สึกยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร”
เพราะ IM IMPOWER ทำงานกับฟรีแลนซ์แล้วเวิร์ค
“จากการจ้างงานฟรีแลนซ์ของ Talance มามากกว่า 3-4 คน มีความมืออาชีพและ active อยู่เสมอ รวมถึงมีความรับผิดชอบไม่ต้องตามจี้และยังได้ senior ในราคาที่บริษัทยอมจ่ายได้ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลมาก ๆ”
ทั้งนี้เนื่องจากทางทีมเป็น Dev กันทั้งหมดทำให้ตั้งแต่เริ่มแรกทำงานด้วยกันสามารถคุยกันรู้เรื่องและสามารถต่อเติมงานจากเดิมได้ทันทีเลยโดยไม่ต้องมี gap ที่ด้านความสามารถและประสบการณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย
เทคนิคของ IM IMPOWER
เทคนิคส่วนใหญ่ก็มักจะให้ทำงานตาม issue หรือ checkpoint ในแต่ละสัปดาห์ หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็สามารถติดต่อกันผ่าน line ทิ้งไว้เพื่อปรับแก้ในเวลาที่ฟรีแลนซ์ว่าง ซึ่งการทำงานในรูปแบบนี้จะช่วยให้ดึง performance ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ทีมของพวกเรามี meeting online เพื่อเช็คงานในแต่ละสัปดาห์ โดยเราไม่อยากที่จะจี้มากเนื่องจากเราสามารถไว้ใจและสร้างสิ่งที่ต้องการได้แบบง่าย ๆ สไตส์ senior developer
Flexible ตอบโจทย์แต่ไม่ทั้งหมด
จริง ๆ แล้วบางทีถ้าเราขยายฟีเจอร์หรือซอฟแวร์ในระบบที่ไม่มาก Talance จะตอบโจทย์ในเรื่องนี้มาก ๆ เนื่องจากเราต้องการคนที่เข้ามาเติมเต็มในการพัฒนาขึ้นไป
หากถามถึงเรื่องการทำงานแบบ future of work การ flexible time อาจเป็นไปได้แต่ flexible location อาจจะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากถ้าไม่สามาถรักษาคนเก่งไว้ได้เขาอาจจะทำให้คนส่วนใหญ่เข้าไปทำงานแบบ remote กันหมด ซึ่งหากเป็น sofeware house อาจเป็นผลกระทบในเชิงลบจำนวนมาก หรือบริษัทต่าง ๆ อาจจำเป็นต้องเพิ่มฐานเงินเดือนเพื่อรักษา dev เก่ง ๆ ไว้
หาคนเก่งจาก Talance หรือหาเองต่างกันไหม
หากเราไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่จริง ๆ การที่จะได้คนเก่งเข้ามาอยู่ในบริษัทอาจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งส่วนมากจะเป็นการหาตามคอนเนคชั่นหรือเด็กจบใหม่ไฟแรงที่มีความสามารถ
“ในขณะที่ Talance ก็ดูจะสามารถหาคนเก่งที่เก่งจริง ๆ ได้ตลอด และสามารถสื่อสารกับทีมรู้เรื่องด้วยซึ่งทำให้การทำงานสามารถดำเนินต่อได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่จากการจ้างฟรีแลนซ์ข้างนอกมักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยสื่อสารกับทีมทำให้ยากที่จะทำงานด้วยกัน”
ข้อแนะนำจาก IM IMPOWER
ถ้าเป็นไปได้อยากให้ Talance มีบริการ MA ให้กับบริษัทต่าง ๆ ด้วย ซึ่งเหมือนการซื้อประกันให้กับบริการหลังการจ้างฟรีแลนซ์กับทางทาแลนซ์ โดยอาจจะสามารถราคา add-on เพิ่มเข้ามาด้วยได้ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทต่าง ๆ ไว้ใจและจะสามารถที่จะ win-win ทั้งสองฝ่ายทั้งคู่
หรือเป็นฟังก์ชันการซื้อชั่วโมงเป็นแพ็คเกจ และสามารถเรียกใช้ Talance ได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้การ maintain หรือรับประกันหลังบริการจะดีมากขึ้น