ประสบการณ์ทำงานกับ Talance

ถอดบทสัมภาษณ์ Full-stack Developer หลังเริ่มรับงานกับ Talance

admin

06 Apr 2022 | 1 นาทีอ่าน

Full-Stack Freelance Developer รีวิว Talance ! หากใครยังไม่รู้จัก Talance (ทาแลนซ์) ว่าคืออะไร Talance แพลตฟอร์มที่รวบงาน Remote Work สำหรับ Freelance Developer จำนวนมากและพร้อมจับคู่งานตามความต้องการของเราได้แบบ on-demand หากใครสนใจก็ลองเข้าไปดูที่ talance.tech ตาม referral ผมได้เลยครับ 

สวัสดี Talance

ขอแนะนำตัวก่อนละกันสำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก ผมชื่อเล่นว่า “บีม” ทำงานเป็น Full-stack Developer โดยใช้ภาษา Vue.js, Golang และ Node.js อยู่ที่บริษัท Agoda ที่เป็นแหล่งใฝ่ฝันของโปรแกรมเมอร์หลาย ๆ คน 

ช่วงต้นปี 2021 ผมได้ไปเห็นเพื่อนแชร์เพจหรือโฆษณาบน Facebook (ไม่แน่ใจ) ว่ามีแพลตฟอร์มที่เปิดรับสมัคร Freelance Developer มีงานป้อนมาให้ตลอด และหางานให้กับ Developer ก็เลยลองสมัครเข้าไปเป็น Full-Stack Freelance Developer ดูซึ่งเหมือนช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ Talance เพิ่งเปิดตัวใหม่ ๆ หลังจากสมัครเข้าไปทำ code test อะไรเสร็จเรียบร้อยก็หายไปเลย 5-6 เดือน 

แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่หลังจากนั้นก็ได้รับการติดต่อกลับมาจากฝ่ายเซลล์ของ Talance ว่ามีคนที่สนใจโปรไฟล์ของเราเพราะว่าตรงกับความต้องการของผู้ว่าจ้างพอดี พอหลังจากคุยกันไปกันมาสักพักหนึ่งรู้ตัวอีกทีก็โดนนัดสัมภาษณ์กับผู้ว่าจ้างซะแล้ว

ร่วมงานกับ Freelance Developer ชั้นนำทั่วประเทศ

เทส เทส แล้วก็เทส

สมัครเข้าไปประมาณ 1-2 วันก็โดนสัมภาษณ์เลยครับว่ามีประสบการณ์อะไรมาบ้าง ถนัดอะไรบ้าง เจ๋งจริงไหม โดนถามเจาะจงฟังก์ชันต่าง ๆ เยอะมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น 

ผมโดนสัมภาษณ์กับผู้ว่าจ้างเรียกได้ว่าแทบจะทันที โดยการสัมภาษณ์จะเป็นออนไลน์ผ่าน video call ซึ่งมีผม ผู้ว่าจ้าง แล้วก็เซลล์อยู่ในห้องสัมภาษณ์ โดยคำถามส่วนใหญ่ก็จะเป็น เราเคยทำงาน/ผลงานอะไรมาบ้าง มีการโชว์ผลงานกันไปมา ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีฝ่าย sale เขาบรีฟมาเบื้องต้นก่อนว่าจะต้องเตรียม portfolio ยังไง เล่าให้ฟังถึงเนื้องานคร่าว ๆ ว่ามันตรงกับผลงานในอดีตเราในส่วนไหน ก็เลยทำให้เราเตรียมเอกสาร ผลงานได้ง่ายยิ่งขึ้น

เหมือนจะลืมพูดไปว่า Talance มี Code Test ที่เอาไว้คัด Developer แต่ละคนก่อนรับงานด้วย ซึ่งผมคิดว่ามันดีมากสำหรับการช่วยกรอง Developer เบื้องต้น ซึ่งผมเองก็จำความรู้สึกที่ทำครั้งแรกไม่ได้แล้ว แต่สำหรับใครที่อยากเข้ามาสมัครทาแลนซ์ขอบอกเลยว่า “ไม่ได้ยากมาก” ขนาดนั้นเพราะเขามี Template อะไรมาให้เรียบร้อยแล้วเราแค่ต้องใช้ Logic ของเราในการทำให้ครบเท่านั้นเอง อย่างของผมก็ทำเป็นตัวเกม XO หรือ Tic Tac Toe โดยใช้ภาษา React ซึ่งใช้เวลาทำไม่ได้นานมากประมาณ 1-2 ชั่วโมง

เริ่มรับงาน Freelance ทำงานกับ Talance

กลับมาที่บรรยากาศในห้องสัมภาษณ์อีกสักหน่อย ด้วยความที่ผมไม่ได้เจอคำถามที่เจาะจงมาก ๆ ทำให้ผมเพิ่งมารู้หลังสัมภาษณ์ว่าผู้ว่าจ้างที่เข้าห้องมานั้นเป็นเหมือนเจ้าของโปรเจกต์มากกว่าที่จะเป็น Dev ก็เลยไม่ได้โดนถามคำถามที่ยากมาก แต่ก็ทำให้ผมทำงานลำบากด้วยเพราะว่ายังไม่เข้าใน scope of work ที่แท้จริง หรือแม้กระทั่งเครื่องมือที่จะใช้เลย ทำให้ผมก็ต้องพยายามถามเขาเองซะมากกว่า 

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้งานแรกมาทำเลยครับ เป็นงานเกี่ยวกับการทำ Shopping Card (หากใครนึกภาพไม่ออกอารมณ์เหมือนกับการที่เรากดสินค้าใน Shopee แล้วสินค้าก็จะเข้าไปอยู่ในตะกร้า) ส่วนตัวของผมเองชอบที่จะซอยโปรเจกต์ใหญ่ให้เป็นฟีเจอร์ย่อยแล้วกำหนดเวลาว่าในแต่ละฟีเจอร์ย่อยนั้นควรที่จะใช้เวลาทำกี่ชั่วโมงให้เสร็จ ทีนี้พอผมทำเสร็จ 1 ฟีเจอร์ก็จะส่งให้กับผู้ว่าจ้างตรวจว่าโอเคไหม มี feedback อะไรกลับมาบ้าง 

ครั้งแรกก็ได้รับชั่วโมงการจ้างงานมา 20 ชั่วโมง แล้วก็เริ่มทำทันทีเลยซึ่งตัวเนื้องานเองก็ไม่ได้หนักมาก ด้วยความที่ผมทำงานเร็วชั่วโมงการจ้างงานก็เลยเหลืออีกเยอะเลยแต่ Talance ก็คิดให้เท่ากับ 20 ชั่วโมงซึ่งถือว่าดีมาก

สำหรับผมถือว่าการได้ชั่วโมงจ้างงานครั้งแรกเป็นอะไรที่พึงพอใจมากแล้วก็โอเคเลย อย่างอัตราค่าจ้างของผมจะอยู่ที่ 300 บาทต่อชั่วโมงก็จบโปรเจกต์ก่อนจะหมด 1 สัปดาห์ซะอีก

Writing Code

ชีวิตในแต่ละวันของ Freelance Developer

อย่างของผมเองก็จะตกลงกับลูกค้าก่อนว่าจะสื่อสารผ่านทางไหนอย่างของผมเองก็ให้ LINE ในการสื่อสาร แล้วก็ตกลงกันว่ามีเวลาทำงานในช่วงไหนเพราะว่าโดยส่วนใหญ่แล้วผมจะเอามาทำนอกเหนือจากงานประจำโดยจะอยู่ที่เวลาประมาณ 20.00-22.00 น. ของวันปกติ แต่ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์บางทีก็จะจบงานได้ไวเพราะมีเวลาทำทั้งวัน 

แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นการ fix เวลาการทำงานไว้แล้ว แต่ก็สามารถยืดหยุ่นได้ในแต่ละโปรเจกต์ที่รับมาทำ แต่ส่วนใหญ่ผมก็จะเลือกการทำงานในช่วงเวลานี้มากกว่า

เวลาประชุมของงานแรกที่ได้รับมาส่วนใหญ่จะเป็นการประชุมหลังจากหมดสัปดาห์นั้น ๆ แล้วซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ภายในทีมโดยจะมีผมเข้าไปอยู่ภายในการประชุมนั้น ๆ ด้วยเพื่อรับ feedback จากคนอื่น ๆ ภายในทีม

ท้ายที่สุดในแต่ละวันเราจะต้องกลับมากรอก Time-sheet ซึ่งเป็นตัวเก็บชั่วโมงการทำงานและรายละเอียดการทำงานของเรา เพราะว่าการทำงานของเราจ้างเป็นชั่วโมงแต่ด้วยความที่ผมไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรไปดีก็เลยอยากเสนอให้มี pattern ให้หน่อยก็ดี 

แตกต่างอย่างลงตัว

หลายคนอาจจะคิดสงสัยว่าผมรับงาน Freelance ข้างนอกแบบนี้ก็ทำงานง่ายหน่ะสิเพราะเป็นภาษาที่เราทำงานหรืออุตสาหกรรมที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่บอกได้เลยครับว่างานที่ผมรับมานั้นแทบจะ “แตกต่าง” อย่างสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้ (555+) เพราะภาษาคอมที่ใช้รับงานฟรีแลนซ์กับ Talance ก็ไม่ได้เป็นภาษาเดียวกับที่ทำงานประจำ เป็นความโชคดีที่ว่าผมมีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่สมัยเรียนก็ช่วยได้เยอะเลย

หลังจากที่รับงานมาได้สักพัก ก็ทำให้รู้สึกได้ว่าต้อง research มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราอาจจะมีพื้นฐานมาก่อนหรือว่าเราเคยทำมาก่อนก็ตาม แต่ว่าด้วยความที่เวลามันผ่านมาหลายเดือนหลายปีทำให้มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาตลอด ก็เลยต้องมีเตรียมตัว ไปลองอ่าน document เพิ่มเติมเพื่อรื้อฟื้นความสามารถหรือทักษะของเรากลับมา 

บางโปรเจกต์กลับไม่ได้ท้าทายเรามากนัก แต่เราเลือกที่จะท้าทายตัวเองบ้างก็มี เช่น โปรเจกต์ที่สามารถพัฒนาไปต่อได้หรือโปรเจกต์ที่สามารถปรับให้โครงสร้างมันง่ายขึ้นได้และได้ผลดีกว่าเดิม ผมก็จะเสนอไปให้เขาเพื่อว่าในอนาคตเขาจ้างผมกลับมา maintain หรือจ้างคนอื่นเข้ามาพัฒนาต่อก็จะได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

จบงาน รับเงิน!

ก่อนจะแยกย้ายกันไปผู้ว่าจ้างจะจัด Meeting ใหญ่เพื่อพูดคุยส่งมอบงานและ knowledge ของเราแล้วก็อธิบายว่าระบบเป็นยังไง

พอจบโปรเจกต์เราก็จะรอไปรับเงินตามชั่วโมงการจ้างงานที่เราได้รับมา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมได้รับโปรเจกต์ที่มีการทำงานคาบเกี่ยวระหว่างเดือนก็จะได้รับค่าจ้างในเดือนแรกตามชั่วโมงที่ทำไปก่อนแล้วจึงจะได้รับอีกส่วนหนึ่งในสิ้นเดือน ซึ่งสำหรับผมคิดว่ามันอาจจะนานไปนิดนึงแต่ก็ตรงเวลา

ข้อดีอีกอย่างคือหลังจากจบงานหรือโปรเจกต์นั้นแล้วเราไม่ต้องรับผิดชอบอะไรต่อเลยทำให้เราสามารถรับงานต่อไปได้อย่างหมดห่วง

สรุปแล้ว ทำงานกับ Talance ดีไหม

ความรู้สึกแรกก็มีตกใจอยู่เล็กน้อยเพราะว่าหลังจากสมัครเข้าไปแล้วก็หายไปเลย 5-6 เดือน เราก็รู้สึกว่าเขาเลิกทำไปแล้วหรือเปล่า แต่พอมีการติดต่อกลับมาก็โอเค (แม้ว่าจะหวั่น ๆ บ้าง) แต่ก็ยังดีที่มีฝ่าย sale เข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนจบ

ถ้าอยากสมัครเป็น Freelance บ้างทำไง?

มันจะดีมากหากคุณสนใจเป็น Freelance Developer และ ทำงานกับ Talance เหมือนพวกเรา ถ้าอยากมาร่วมงานกับเรา ก็สามารถลองดูงานทั้งหมดสำหรับฟรีแลนซ์และสมัครเข้ามาได้เลย เพราะงั้นพัฒนาฝีมือแล้วอย่ารอช้าที่จะสมัครเข้ามา

(กระซิบ) หากว่าใครที่เข้ามาอ่านบทความและสมัครกับทาแลนซ์ด้วย referral code ของผม เขาบอกว่าจะได้รับสิทธิพิเศษด้วยนะ Talance เปิดรับ Senior Developer มากประสบการณ์ทั้งพนักงานประจำและฟรีแลนซ์ หวังว่าจะได้เจอกันบนแพลตฟอร์มนะครับ!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้จักใช้ Digital Technology ถ้าอยากให้ธุรกิจชนะคู่แข่ง

พฤติกรรมของลูกค้ากำลังเปลี่ยนแปลงไปในทุกวัน จากการค้นหาและการแชร์ข้อมูลสู่การซื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ทำให้บริ

Jo

12 Mar 2023 | 1 นาทีอ่าน