
Freelance VS Full-time Developer แตกต่างกันอย่างไร
Freelance VS Full-time หรือ อาชีพรับจ้างและอาชีพอิสระ แตกต่างกันอย่างไร ? เชื่อว่าหลาย ๆ องค์กรกำลังมองหา Developer ให้เข้ามาร่วมทำโปรเจกต์ แต่อาจจะยังคงลังเลว่าระหว่างการจ้าง Freelance Developer และ Full-time Developer ว่าควรเลือกแบบไหนดี ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการจ้างงาน Dev ทั้ง 2 แบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งวันนี้ Talance จะพามาเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ กันครับ
ขั้นตอนการค้นหาคนที่ใช่ ระหว่าง Freelance VS Full-time
สำหรับการค้นหา Full-time Developer ที่มี tech stack หรือ skill ที่เพียงพอต่อการเริ่มต้นโปรเจกต์นั้นมักจะมีเวลาในการค้นหาที่ “ยาวนานกว่า” ซึ่งอาจกินเวลานานถึง 1 เดือนหรือ 6 เดือนตามความหายากของ tech stack นั้น ๆ ทำให้ไม่สามารถจบโปรเจกต์ได้อย่างทันท่วงที
ในทางกลับกันหากเป็นการค้นหา Freelance Developer นั้นอาจจะง่ายมากกว่าเนื่องจากสามารถค้นหาฟรีแลนซ์ที่จะเข้ามารับงานได้ภายในระยะเวลา 1-14 วัน ซึ่งการที่เราสามารถ candicate ได้ภายในระยะเวลาที่สั้นขนาดนี้จะทำให้บริษัทสามารถปิดโปรเจกต์ได้อย่างรวดเร็วอย่างมากเลยทีเดียว
ความสามารถของ Developer
แน่นอนว่าหาต้องเปรียบเทียบระหว่าง อาชีพรับจ้างและอาชีพอิสระ สิ่งที่ต้องนึกถึงเลยก็คือ “ความสามารถ” ซึ่งหากคุณเป็น Full-time Developer ไม่ว่าจะเป็น Junior, Mid-level หรือ Senior คุณอาจมีความรู้และความเข้าในใน tech stack นั้น ๆ ตามระดับเลเวล อีกทั้งการทำงานแบบ Full-time นั้นมักจะทำงานกันเป็นทีม ทำให้แต่ละคนมีความเข้าใจในการพัฒนาซอฟแวร์ที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับในบางงานนั้นบาง skill อาจไม่ตอบโจทย์ต่อโปรเจกต์มากเท่าที่ควร
แต่ใน Freelance Developer จะต้องมีความสามารถอย่างรอบด้านเพื่อให้ตอบโจทย์กับงานฟรีแลนซ์ที่รับมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่บางครั้งฟรีแลนซ์ก็ไม่สามารถที่จะจบโปรเจกต์ได้ตามที่ต้องการหรือ “ชิ่ง” หนีก่อนเนื่องจากความสามารถไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ว่าจ้างต้องมีการทำสัญญาที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ความคล่องตัวในการทำงาน
หากต้องการจ้าง Full-time Developer คุณสามารถที่จะป้อนงานให้กับพวกเขาได้อย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา ซึ่งมีผลทำให้ทรัพยากรคนในบริษัทอาจมีเวลาในการพัฒนาตัวเองหรือเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ ที่สนใจนั้นมักจะน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าการทำงานนั้นจะเต็มเวลาอย่างแน่นอนเนื่องจากมีเวลาเข้าออกงานอย่างชัดเจนในแต่ละบริษัทรวมถึงมีทีมให้คำปรึกษาซึ่งจะช่วยให้โปรเจกต์ราบรื่นขึ้นไปด้วย
ทั้งนี้การจ้าง Freelance Developer นั้นมักมีความคล่องตัวมากกว่าเนื่องจากคุณสามารถนำโปรเจกต์ขนาดเล็กหรือใหญ่ที่ใช้เวลาเพียงไม่นานมอบให้กับฟรีแลนซ์ทำได้ อีกทั้งคุณยังสามารถที่จะเลือกจ้างฟรีแลนซ์ที่มีคุณภาพในระดับ Senior เพื่อมาช่วยในการพัฒนาซอฟแวร์ให้มีคุณภาพมากขึ้นก็ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าฟรีแลนซ์นั้นสามารถรับโปรเจกต์ข้างนอกได้อีกหลายงานทำให้อาจมีความล่าช้าหรือไม่สามารถจัดเวลาให้ได้ในบางครั้ง
ความสัมพันธ์กับผู้ว่าจ้าง ของ อาชีพรับจ้างและอาชีพอิสระ
แน่นอนว่าการจ้าง Full-time Developer มักจะเผชิญกับสัญญาจ้างงานระยะยาว เช่น 3 เดือน หรือ 1 ปีเป็นต้น ทำให้การเข้าอยู่กับบริษัทในระยะยาวนั้นจะช่วยให้เข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ ขององค์กรได้ดีกว่าระยะสั้นอย่างแน่นอน รวมถึงมีความสัมพันธ์ในทีมที่จะช่วยเติมเต็มความน่าอยู่และกำลังใจในการจบโปรเจกต์ไปร่วมกัน
แตกต่างจาก Freelance Developer ที่จะเข้ามาช่วยงานในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้นทำให้ความเข้าใจในองค์กรอาจจะน้อยกว่าทีมในระยะยาว ซึ่งอาจรวมถึงการสื่อสารที่ผิดพลาดเนื่องจากความไม่เข้าใจในวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องหาคนที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้หรือฟรีแลนซ์ที่สามารถทำหน้าที่เป็น lead ได้ในตัวเอง
สรุป Freelance VS Full-time
จะเห็นได้ว่า Freelance Developer มีข้อดีที่แตกต่างจาก Full-Tme Developer หลายข้อด้วยกัน แต่ก็ยังมีข้อด้อยในเรื่องของความสัมพันธ์กับองค์กรอยู่ ดังนั้นผู้ว่าจ้างเองก็ควรที่จะชั่งน้ำหนักก่อนว่าให้ความสำคัญกับส่วนไหนมากกว่ากัน เพื่อให้สามารถเลือกคนทำงานได้อย่างตรงตามความต้องการ และงานสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
แต่ถ้าสนใจ Freelance Developer เรามี Freelance สาย Dev มืออาชีพรอร่วมงานกับคุณมากมาย มาหาคนทำงานคุณภาพกับเราได้แล้ววันนี้ คลิกเพื่อจ้าง Developer!