
เทรนด์ Remote Work ในปี 2022 เปลี่ยนไปยังไงบ้าง
เทรนด์ Remote Work หรือ การทำงานระยะไกล เป็นหนึ่งในคอนเซ็ปต์ด้าน Work from anywhere, anytime ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากหลังจากการระบาดของโควิด-19
หลังจากระยะเวลาผ่านไป 2 ปีหลังจากการระบาดของโควิด-19 เทรนด์นี้ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างเห็นได้ชัด โดยได้มีการสำรวจเชิงลึกในตลาดแรงงานว่าเทรนด์ใดที่กำลังมาแรงในปี 2022 ทำให้เห็นถึงแนวโน้ม, เทรนด์การจ้างงานที่กำลังเปลี่ยนไป อาชีพสุดฮิต รวมถึงความสำคัญ
โดยวันนี้ Talance จะนำเสนอข้อสรุปของเทรนด์ Remote Working ที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่พูดถึงในองค์กรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้ว่าจ้างสำหรับเพื่อพิจารณาปรับใช้การทำงานระยะไกล
แนวโน้ม
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เทรนด์นี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเปอร์เซ็นต์ของการทำงานทางไกลได้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 2-3 เดือนของต้นปี 2020 นับตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด – 19 หลังจากนั้นเป็นต้นมาอัตราการเติบโตของ เทรนด์ก็เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
เทรนด์นี้นั้นได้เติบโตและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทำงานอย่างพนักงานประจำหรือฟรีแลนซ์ โดยจากการสำรวจพนักงานที่ทำงานผ่านทางไกลโดย GitLab พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามนั้นเลือกที่จะลาออกจากงานหากไม่มีการทำงานผ่านทางไกลอีกแล้ว และ 52% จะพิจารณาลาออกจากบริษัทหากไม่มีการทำงานผ่านทางไกล อีก 80% กล่าวว่าพวกเขาจะแนะนำการทำงานระยะไกลให้กับเพื่อน รวมถึงมองว่าสิ่งนี้คือหนทางการทำงานแห่งอนาคต
สิ่งสำคัญคือการทำงานระยะไกลนั้นเกิดขึ้นในทุกอาชีพไม่ว่าจะเป็น พนักงานมีปริญญา (degree) และ พนักงานไม่มีปริญญา (non-degree) โดยหากอิงจากแผนภูมิด้านบนจะเห็นว่าการทำงานระยะไกลมอบการเติบโตของทั้งสองรูปแบบเป็นอย่างมากในตลอดหลายปีที่ผ่านมาหากอิงจากประชากรทั่วโลก
เทรนด์การจ้างงานกำลังเปลี่ยนไป
ในช่วงที่ผ่านมาตลาดแรงงาน Freelance และ Developer เริ่มที่จะค้นหาการทำงานในรูปแบบ “Work From Home” มากยิ่งขึ้นกว่า 900% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ไม่เพียงแค่การทำงานแบบนี้เท่านั้นที่ได้รับการยอมรับ Remote Interview หรือการสัมภาษณ์หรือประชุมงานผ่านทางไกลก็ยังเป็นที่สนใจอีกด้วย โดยหลายบริษัทเลือกที่จะนัดสัมภาษณ์ผ่านทางออนไลน์มากยิ่งขึ้นกว่า 425% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
เชื่อหรือไม่ว่าเพียงบริษัทหรือองค์กรเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจาก Office Working เป็น Remote Working ก็ได้จำนวนพนักงานที่สมัครเข้ามามากยิ่งขึ้นกว่า 40% และผู้สมัครล้วนแต่เป็นมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ โดยปัจจุบันได้มีปัจจัยสำคัญ 2 อย่างที่บ่งบอกได้ว่าเทรนด์การจ้างงานกำลังเปลี่ยนไป
1. การแข่งขันที่มากยิ่งขึ้น
คู่แข่งของคุณจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่บริเวณภูมิภาคของคุณอีกต่อไป เนื่องจากบริษัทคู่แข่งเริ่มใช้ความคิดสร้างสรรค์กับกลยุทธ์การจ้างงานที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่แข่งเหล่านั้นอาจจ่ายค่าจ้างให้กับนักพัฒนาจาก Silicon Valley ซึ่งทำงานในรูปแบบนี้ทำให้การแข่งขันระหว่างองค์กรเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยหากคุณกำลังมองหา Developer ในบริเวณรอบ ๆ ตัวคุณเพียงอย่างเดียวเพราะนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทของคุณเริ่มล้าหลังและลดระดับจากผู้นำสู่ผู้ตามในที่สุด
2. โอกาสที่มากยิ่งขึ้น
โอกาสในการได้มาซึ่งผู้มีความสามารถก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะภูมิภาคของคุณอีกต่อไปเช่นกัน เนื่องจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนั้นมีอยู่รอบโลก ดังนั้นหากคุณต้องการจ้างงานเพียงพนักงานรอบบริษัทของคุณ อาจทำให้คุณมีโอกาสได้เจอกับผู้เชี่ยวชาญน้อยกว่า
อาชีพ Remote Work สุดฮิต
สำหรับอาชีพแบบไม่มีปริญญา (Non-degree) ก็มีแนวโน้มในการทำงานทางไกลมากขึ้นหากเทียบกับปี 2016 โดยอาชีพด้านการขาย เช่น ผู้ดำเนินสินเชื่อ พนักงานขาย และอื่น ๆ ได้เติบโตมากถึง 818% รวมถึงงานด้านบริการ เช่น ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า พนักงานบัญชี พนักงานซัพพอร์ตเทคนิค ก็ได้เติบโตมากกว่า 600% เช่นเดียวกัน
สำหรับอาชีพแบบปริญญา (Degree) ก็เติบโตไปมากกว่า 1,000% โดยหากมองถึงงานเกี่ยวกับโปรแกรมมิ่งจะเห็นได้ว่า .NET Developer, Java Developer, Data Engineer, Software QA Engineer นั้นได้เป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งทำให้เห็นว่าโปรแกรเมอร์ส่วนใหญ่นั้นเริ่มสนใจการทำงานทางไกลและผันตัวมาทำงานทางไกลมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอาชีพเหล่านั้นจะเป็นอาชีพที่มีการทำงานในรูปแบบนี้สูง แต่สถิติการจ้างงานของบริษัทที่มองหา Technical Skills เช่น DevSecOps, Vue.js, Tensorflow, Microsoft BI และ Blockchain ก็เพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2021 ด้วยเช่นกัน
สรุป
เนื่องจากมันเสนอความท้าทายมากมายให้กับผู้ว่าจ้างและพนักงาน เช่น การติดตามงาน กำแพงด้านภาษา ไทม์โซนที่แตกต่างกัน และ อื่น ๆ ในทางกลับกันมันได้ให้โอกาสมากมายซึ่งทำให้ผู้ว่าจ้างสามารถจ้างใครก็ได้จากทั่วทุกมุมโลกและสามารถให้อำนาจแก่พนักงานทุกคนในการรับผิดชอบเวลาและงานของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น
เครื่องมือต่าง ๆ ที่รองรับการทำงานระยะไกลซึ่งมีจำนวนมากยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนโดยหากเรามองย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เรามักจะใช้โปรแกรม Zoom, Line หรือ Facebook ในการติดต่อสื่อสาร แต่ปัจจุบันนั้นได้มีโปรแกรมที่รองรับการทำงานแบบ Remote มากมาย เช่น Microsoft Team, Discord, Slack, Google Meet และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ครบครันโดยสามารถสื่อสารและกักเก็บไฟล์งานต่าง ๆ ไว้ได้ในที่เดียว
แน่นอนหากคุณกำลังมองหา Freelance Developer ที่สามารถทำงานแบบ Remote Working ได้ เริ่มต้นปรึกษาทีมงานผู้เชี่ยวชาญและจ้างพวกเราได้ที่นี่