อาชีพเสริมปี 2566

30 อาชีพเสริม ปี 2566 ที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนโดยเฉพาะ !

Jo

10 Feb 2023 | 4 นาทีอ่าน

อยากหารายได้เสริม อยากมีรายได้เพิ่มขึ้น “แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร” เป็นปัญหาของใครหลายคนที่ต้องการมองหางานเสริมทำนอกเหนือจากงานประจำที่ตัวเองทำอยู่ แต่สุดท้ายหาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้สักที ทั้งยังอาจเคยโดนหลอกให้ไปขายตรงบ้าง แชร์ลูกโซ่บ้าง ทำให้การหางานเสริมเป็นอะไรที่ยากและสมัยนี้การมีรายได้จากช่องทางเดียวก็เป็นอะไรที่ไม่มั่นคงเหมือนเมื่อก่อน แล้วอ้าว.. ที่งี้จะทำยังไงดีล่ะ ไม่ต้องห่วงไป! เพราะบอกได้เลยว่าวันนี้ Talance จัดหนักจัดเต็มนำเนื้อหาดีๆ ที่เป็นประโยชน์อย่าง “30 อาชีพเสริม ปี 2566” มาให้แก่ทุกคน ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย 

30 อาชีพเสริม ปี 2566 ที่เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนโดยเฉพาะ !

อาชีพเสริม

1. Dropshipping

รายได้ประมาณ 1,000 – 20,000 บาท / เดือน (ขึ้นอยู่กับสินค้าที่ขาย)

ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น เนื่องด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่ดิจิตอลเข้ามามีบทบาทในชีวิตของใครหลายๆ คน อีกทั้งการขายสินค้าออนไลน์ก็เป็นอันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงเมื่ออยากทำธุรกิจออนไลน์ แต่ปัญหาที่หลายคนต้องพบเจอเลย คือ “อยากทำธุรกิจนะ แต่มีต้นทุนน้อยหรือไม่มีเงินเลยจะทำได้หรอ” คำตอบคือ.. “ทำได้” 

วิธีการนั้นก็คือ Dropshipping ซึ่งมันก็คือการนำสินค้าของคนอื่นมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) และหักกำไรจากยอดขายได้ โดยไม่ต้องสต็อกสินค้า ไม่ต้องมีเงินลงทุน ไม่ต้องส่งสินค้าเองและไม่ต้องเสียค่าพื้นที่ในการวางสินค้าหรือเรียกง่ายๆ ว่าเราเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าโดยรับของจากแพลตฟอร์มอื่นไปขาย 

พอลองฟังดูแล้วก็ถือเป็น อาชีพเสริม ปี 2566 ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ งั้นเรามาดูขั้นตอนการเริ่มทำ Dropshipping กันเลยดีกว่า

เริ่มต้นทำ Dropshipping ได้อย่างไร?

  1. เลือกหมวดหมู่หรือชนิดสินค้าที่ต้องการขาย
  2. ค้นหาร้านค้าหรือ Supplier ที่เปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบ Dropshipping และขอสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย
  3. หลังจากสมัครเสร็จเรียบร้อย ให้กลับมาเปิดหน้าร้านขายออนไลน์ และลงรูปโปรโมทสินค้าในช่องทางการขายต่างๆ ของเรา
  4. เมื่อมีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาก็ส่งคำสั่งซื้อไปยัง Supplier ผู้เป็นเจ้าของสินค้า
  5. ทาง Supplier จะเป็นผู้ส่งสินค้าไปให้ลูกค้าภายใต้นามของร้านตัวแทนจำหน่ายของเรา เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

ช่องทางการสมัคร Dropshipping : Alibaba, Amazon, Ebay 

2. Affiliate Marketing

รายได้ประมาณ 500 – 5000 บาท / เดือน (ขึ้นอยู่กับสินค้าที่ขาย)

คำว่า Affiliate Marketing หลายๆ คนอาจเคยได้ยินมาแล้วบ้าง จากช่องทาง Social Media ต่างๆ อย่าง Tiktok, Instagram หรือ Facebook การทำ Afiiliate Marketing มันก็คือการที่เราขอไปเป็นพาร์ทเนอร์หรือตัวแทนช่วยขายสินค้า (อาจเป็นสินค้าพวกของใช้หรืออสังสาริมทรัพย์ก็ได้) กับบริษัทที่เปิดรับการทำ Afiiliate แล้วจากนั้นเขาก็จะให้ลิงค์มาตามสินค้าที่เราจะไปช่วยขาย ซึ่งถ้าหากมีคนกดเข้ามาซื้อสินค้าจากลิงค์อันนั้น เราก็จะได้ค่า Commission ไปด้วยในตัว 

ตัวอย่างของการทำลิงค์ Afiiliate ที่มักเห็นกันบ่อยๆ 

เวลาเราเลื่อนเฟสเราก็อาจจะเห็นโพสรีวิวสินค้าแล้วใส่ข้อความทิ้งท้ายพร้อมทั้งแปะสินค้าประมาณว่า 

  • “ไม่ซื้อไม่ได้แล้วว กดซื้อเลยที่นี้ → (แปะลิงค์)” 
  • “ใครไม่มีคือพลาด! กดดูสินค้าได้ที่ → (แปะลิงค์)”

รูปแบบการจ่ายเงินของ Affiliate Marketing จะมี 3 ทั้งหมดรูปแบบ คือ

  1. Pay Per Sale (PPS) ได้เงินจากค่าคอมมิชชั่น
  2. Pay Per Lead (PPL) ได้เงินเมื่อมีคนมาสมัครหรือลงทะเบียน
  3. Pay Per Click (PPC) ได้เงินเมื่อมีคนคลิกเข้าไป

ช่องทางการสมัคร Affiliate Marketing ทำเป็นอาชีพเสริม 

  • Accesstrade Affiliate Program  
  • Agoda Affiliate Program
  • Lazada Affiliate Program
  • Shopee Affiliate Program
  • Sellzabuy Affiliate Program
  • Priceza Affiliate Program
  • Ecomobi Affiliate Program
  • Canva Affiliate Program
  • Involve Asia

3. E-Book 

รายได้ประมาณ 2,000 – 35,000 บาท / เดือน 

สำหรับใครที่มีสกิลทางด้านการเขียน การหารายได้เสริมด้วยการเขียน E-Book ขาย ก็เป็นอาชีพเสริมอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจมากๆ เพราะในการเขียน E-Book เล่มนึงเราสามารถเขียนให้ออกมาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแนวนิยาย, Guide How to.., เขียนให้ความรู้หรือแม้แต่เขียนเล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง และถึงแม้ว่าการเขียน E-Book อาจจะเป็นงานที่ใช้เวลาระดับนึงในการทำ แต่หากทำเสร็จแล้วเราก็สามารถนำไปขายในแพลตฟอร์มที่เปิดให้ลงขายได้เรื่อยๆ อีกทั้งการเขียน E-Book ขายก็หนึ่งใน อาชีพเสริม ปี 2566 ที่กำลังมาแรงสุดๆ 

ช่องทางการลงขาย E-Book

  • ebooks.in.th
  • ilovelibrary.com
  • mebmarket.com
  • zhake.com
  • asiabooks.com
  • se-ed.com
  • naiin.com
  • ookbee.com
  • 4dbook.com

4. Copywriter

รายได้ประมาณ 3,000 – 15,000 บาท / เดือน

อาชีพนักเขียนหรือที่เราเรียกกันว่า Copywriter เป็น อาชีพเสริม ปี 2566 ที่หลายบริษัทมองหาและต้องการตัวสุดๆ โดยเฉพาะบริษัท IT เพราะอาชีพนี้เป็นเหมือนสะพานที่ถ่ายทอดความรู้สึกแก่ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการผ่านบทความที่เขียนออกมา 

ตัวอย่าง ถ้าต้องการเขียนโพสผ่าน Facebook ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการประกาศระวังฉุกเฉินโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนๆ คิดว่าประโยคแบบไหนน่าจะเหมาะกว่ากันระหว่าง 2 ประโยคนี้

  • ประกาศ!! เตือนภัยโรคระบาดโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 12,000 คน แล้ว!!
  • ประกาศระวังโควิด-19 อันตรายถึงชีวิต โปรดรักษาตัวอยู่ในบ้าน

จาก 2 ประโยคนี้เราน่าจะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจนโดยประโยคแรกจะสื่อให้ความรู้สึกที่เร่งด่วนหรือร้ายแรงกว่าประโยคที่สองที่ออกแนวประกาศข่าวธรรมดาซะมากกว่า อย่างงี้ทุกคนคงเห็นแล้วใช่ไหมเพียงเปลี่ยนการใช้คำความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดไปก็แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อหาเดียวกันก็ตาม

อยากเป็น Copywriter ต้องเริ่มต้นยังไง?

  1. ให้ดูก่อนว่าเราชอบสไตล์การเขียนแนวไหนและก็เริ่มฝึกจากตรงนั้นก่อน 
  2. หลังจากฝึกไปสักพักแล้ว เราก็อาจเริ่มไปฝึกเขียนบทความต่างๆ ที่เป็นคนละแนวกับสไตล์การเขียนที่เขียนอยู่ เพื่อพัฒนาทักษะในการเขียนของเราให้ดีขึ้น
  3. หลังจากมั่นใจแล้วว่าตัวเองสามารถเขียนจนชำนาญ เราก็ลองไปเริ่มรับงานเขียนจากที่ต่างๆ ได้เลย!

แหล่ง Upskill สำหรับ Copywriter

5. นักแปลภาษา

รายได้ประมาณ 3,000 – 15,000 บาท / เดือน

Translator หรือ นักแปลภาษา เป็นอาชีพเสริมที่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเด็กสายศิลป์เท่านั้นถึงจะทำได้ เพราะหากคุณมีดีด้านภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรคุณก็สามารถหารายได้เสริมจากมันได้ งานก็จะมีตั้งแต่การรับแปลเอกสาร, แปลบทความ, แปลความหมายตามเนื้อหาต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าวันนี้คุณไม่ได้ถนัดด้านภาษาขนาดนั้นก็ไม่เป็นไร! เพราะเดี๋ยววันนี้ Talance จะมาแนะนำแหล่ง Upskill ด้านภาษาให้คุณเอง

แหล่ง Upskill ด้านภาษา

6. Content Creator

รายได้ประมาณ 5,000 – 50,000 บาท / เดือน

เรียกได้ว่าเป็น อาชีพเสริมปี 2566 ที่ยอดฮิตในสมัยนี้เลยก็ว่าได้ เพราะใครๆ ก็สามารถเป็น Content Creator เพียงแค่มีไอเดียหรือความครีเอทีฟแบบเจ๋งๆ คิดคอนเทนต์ออกมาโดนใจ ดูแล้วเพลิดเพลินไม่เครียด ก็สามารถสร้างรายได้เสริมได้แล้ว ช่องทางในการทำ Content ก็มีทั้ง Youtube, Tiktok, Instagram, Facebook และ Twitter ที่เราคุ้นเคยและใช้กันทุกวัน

ไอเดียสำหรับการคิด Content 

  • Tips How to
  • แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
  • ริวิวของกิน / สินค้าต่างๆ
  • คอนเทนต์เกี่ยวกับความสามารถเฉพาะตัว
  • เล่าเรื่องที่น่าสนใจหรือเป็นประเด็นในตอนนั้น
  • สอนทำอาหาร
  • คอนเทนต์แนวแปลกๆ แหวกแนว

ซึ่งนอกจากความครีเอทีฟที่ Content Creator จำเป็นต้องมีแล้ว ทักษะที่ขาดไม่ได้เลย คือ ทักษะการถ่ายทอด การตัดต่อ และยังต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ดี ทำให้คนสามารถเข้าถึงหรือทำให้คนรู้จักตัวตนของเราได้ โดยรายได้นั้นก็มาจากยอดวิว ค่าโฆษณา ค่าสปอนเซอร์ หรือรายได้จากการแปะลิ้งค์ Affiliate Marketing ที่เราได้พูดไว้ในหัวข้อที่ 2 ด้วยก็ได้เช่นกัน

7. ลงทุนในหุ้น 

รายได้ประมาณ 3,000 – 30,000 บาท / เดือน (ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุนไป)

หัวข้อที่จะพุดถึงนี้อาจไม่ได้พูดเจาะจงไปถึง อาชีพเสริม ปี 2566 โดยตรง แต่บอกได้เลยว่าเป็นวิธีหารายได้เสริมที่เหมาะแก่ทั้งนักศึกษาหรือมนุษย์เงินเดือนอย่างแน่นอน

คำว่า “หุ้น” เป็นคำที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่เรารู้จริงๆ หรือไม่ว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร? หุ้นคือสิ่งที่แสดงว่าความเป็นเจ้าของกิจการหนึ่งที่เราเข้าไปซื้อขาย แค่นี้แหละสั้นๆ ผ่ามผ้าม! แล้วถ้างั้นเราจะสามารถทำกำไรจากหุ้นได้อย่างไรบ้าง? โดยทั่วไปเวลาเราซื้อขายหุ้นเราจะคาดหวังกำไรจาก 2 ทาง คือ เงินปันผล (Dividend) และ ส่วนต่างราคา (Capital Gain)

เงินปันผล คือ การปันผลกำไรของบริษัทคืนแก่ผู้ถือหุ้น เงินปันผลจัดสรรในปริมาณต่อหุ้นตายตัว โดยผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลเป็นสัดส่วนกับการถือหุ้น นโยบายในการปันผลกำไรมีหลายรูปแบบ เช่น

  • นโยบายเงินปันผลคงที่ (จ่าย 1 บาทต่อหุ้น ในทุกๆ งวดเงินปันผล)
  • นโยบายอัตราปันผลคงที่ (จ่ายปันผล 20% ของกำไรสุทธิ ในทุกๆ งวดปันผล)

ส่วนต่างราคา คือ ส่วนต่างราคาที่เป็นบวก หรือ “กำไร” จากการลงทุนในสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น จากการขายสินทรัพย์นั้นออกไปในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมานั่นเอง

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องหุ้นได้ที่นี้ : https://www.moneybuffalo.in.th/stock/how-to-start-investing-in-stocks

8. เทรด Forex

รายได้ประมาณ 1,000 – 100,000 บาท / เดือน (โปรดพิจารณาความเสี่ยงก่อนลงทุน)

Forex คือ คำที่ย่อมาจาก Foreign Exchange เป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่ให้ผู้คนสามารถเข้ามาทำการซื้อขายสกุลเงินกันเพื่อเก็งกำไร การเทรดจะทำขึ้นใน “ตลาดระหว่างธนาคาร” ซึ่ง Forex ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดการเทรดที่ใหญ่ที่สุดโลกอีกด้วย

หากใครคิดจะเทรด Forex อย่างแรกที่อยากแนะนำคือ ศึกษาข้อมูลต่างๆ ของตลาด Forex ให้ดีก่อน เพราะบอกกันตามตรงว่า Forex เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง ผันผวนมากๆ ทำให้นักเทรดเดอร์หลายท่านที่จะเข้ามาในตลาดนี้ต้องมั่นใจก่อนว่าตัวเองมีความรู้พื้นฐานดีพอหรือยัง ทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด เข้าใจสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการวิเคราะห์กราฟและเทคนิคต่างๆ 

สำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นเทรด Forex จะต้องทำการสมัครสมาชิกและเปิดบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ในต่างประเทศซะก่อน เพราะปัจจุบันยังไม่มีสถาบันการเงินในไทยที่รองรับการลงทุนประเภทนี้ ซึ่งเราก็สามารถเลือกเปิดบัญชีแบบ Demo ไว้สำหรับทดลองเทรดก่อนได้ เพื่อหัดใช้โปรแกรมให้ชำนาญก่อนทำการเทรดจริง

โบรกเกอร์ที่แนะนำ

  • XM Global
  • Exness
  • Pepperstone 
  • FxPro
  • FXPRIMUS 
  • Land-FX 
  • IC Markets
  • FBS

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Forex ได้ที่นี้ :  https://money.kapook.com/view182003.html

9. สร้าง Passive Income ด้วย Bot Trade

รายได้ประมาณ 5,000 – 40,000 บาท / เดือน (ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุนไป)

หากเราอยู่ในวงการเทรดเดอร์มาบ้าง คงจะเคยได้ยินคำว่า Bot Trade อยู่บ่อยครั้ง บ้างก็มีคนรู้จักพูด “เห้ยๆ ถ้าเอ็งไม่ว่างเทรดเอง ลองมาใช้ Bot Trade นี่ดูสิ ได้เงินแบบ Passive Income ด้วยนะเว้ย” พอเราได้ยินอย่างนั้นก็น่าสนใจไม่น้อยเลยใช้ไหม? งั้นเรามาดูกันว่าเจ้า Bot Trade เนี่ยคืออะไร

แนวคิดการนำระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Bot Trade มาใช้ เกิดจากจุดอ่อนของมนุษย์ที่เรียกว่า “อารมณ์” ส่งผลให้การตัดสินใจและการวิเคราะห์นั้นมีอคติ อ่อนไหวง่าย ส่งผลให้เราตัดสินใจผิดพลาดบ่อยครั้ง เนื่องจากอารมณ์ที่อยู่เหนือการตัดสินใจด้วยเหตุผล

ด้วยเหตุผลนั้นเองทำให้เกิดไอเดียการนำ Bot Trade มาลงทุนแทนมนุษย์ โดยการสร้างระบบการเทรดอัตโนมัติขึ้น มีชื่อเรียกที่หลากหลาย เช่น Algorithmic Trading, Program Trading, Automated Trading, System Trading และ Robot Trading ซึ่งล้วนมีความหมายใกล้เคียงกัน นั่นคือ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นได้ด้วยตัวของมันเองทันที เมื่อราคาหุ้น สภาวะตลาดหรือตัวแปรอื่นๆ เข้าเงื่อนไขของโมเดลที่ถูกเขียนขึ้นโดยมนุษย์นั่นเอง 

ช่องทางการซื้อ / สร้าง Bot Trade ที่น่าเชื่อถือ : 

10. ลงทุนใน NFT 

รายได้ประมาณ 10,000 – 100,000 บาท / เดือน

Non-Fungible Token หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า NFT ก็คือ Cryptocurrency ประเภทหนึ่งที่แสดงความเป็น “เจ้าของ” ของสินทรัพย์ โดย NFT แต่ละชิ้นก็มีความแตกต่างและมีมูลค่าที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังไม่สามารถทดแทนกันได้ หรือก็คือแต่ละชิ้นที่ถูกสร้างออกมาจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวในโลกเท่านั่น ไม่สามารถปลอมแปลงได้

แล้วเราจะหารายได้เสริมจากการลงทุนใน NFT ได้อย่างไร? 

  • สร้างรายได้จาก NFT ในเกม play to earn 
  • การ HODLing NFT (ซื้อแล้วถือยาว)
  • การ Flipping NFT (ซื้อแล้วขายต่อ)
  • การเทรด NFT 
  • การ Staking NFT
  • สร้างรายได้จาก NFT โดยได้ค่าลิขสิทธิ์
  • การรับดอกเบี้ยจากรางวัลเล่นเกม NFT
  • ลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตของ NFT สูง

สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนใน NFT เพิ่มเติมได้ที่นี้ : https://www.business2community.com/th-th/nft/make-money-with-nfts 

11. NFT Creator 

รายได้ประมาณ 5000 – 100,000 บาท / เดือน

ตั้งแต่ที่โลกเรามี Blockchain เข้ามา ก็ทำให้หลายๆ อย่างได้เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดช่องทางการซื้อขายและการหารายได้ออนไลน์เพิ่มขึ้น อย่างการขายงานศิลปะในเว็บไซต์และรับเงินเป็นคริปโต อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถสร้างรายได้จากเป็น NFT Creator ได้ถึงหลักล้าน ซึ่งเราคงเคยเห็นข่าวในบ้านเราประมาณว่า “เด็กอายุ 9 ขวบสร้างกำไรจาก NFT ไปกว่า 1 ล้านบาท!!” มาบ้าง ทำให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็สามารถ NFT Creator ได้ ขอแค่คุณกล้าและทำมันให้เป็นจริง

สิ่งที่ต้องรู้สร้าง NFT ขายเป็นอาชีพเสริม

  • สไตล์การออกแบบ NFT – อันที่จริงแล้วในการ NFT ก็มีหลายรูปแบบและหลากหลายสไตล์ ตัวอย่างที่เราเห็นกันบ่อย คือ รูปวาดศิลปะ, รูปถ่าย หรือรูปเคลื่อนไหวเป็นต้น
  • เลือก NFT Marketplace – ไม่ว่าจะเป็น Opensea, Foundation.app หรือ Marketplace อื่นๆ
  • ความเข้าใจใน Blockchain – ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะ NFT Creator หลายท่านมองข้ามข้อนี้ไปจนทำให้ตัวเองเป็นเหยื่อให้กับอาชญากรในโลก Blockchain และเสียเงินไปหลักหมื่นถึงหลักล้านเลยล่ะ

ช่องทางการลงขาย NFT : OpenSea, Foundation.app, Crypto.com, HEN

12. ออนไลน์ติวเตอร์

รายได้ประมาณ 4000 – 20,000 บาท / เดือน

อาชีพเสริม ปี 2566 ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คืออาชีพออนไลน์ติวเตอร์ เพียงสร้างคอร์สสอนขึ้นมา ด้วยการอัดวิดีโอสอนในด้านหรือวิชาที่ตัวเองถนัด เพื่อนำไปลงขายเป็นคอร์สเรียนออนไลน์ อีกทั้งการอัดวิดีโอสอนเพียงครั้งเดียวยังสามารถใช้ไปได้ตลอดด้วย ไม่ก็อีกวิธีนึง คือ การสร้างกลุ่มขึ้นมาเพื่อสอนเป็นกลุ่มๆ ไปก็ได้ หากเป็นวิชาทั่วไป ค่าสอนเริ่มต้นก็ประมาณชั่วโมงละ 200 – 300 บาท ถ้าเป็นวิชาที่ยากขึ้นมาหน่อยก็เริ่มชั่วโมงละ 400 – 500 บาทเลย ซึ่งโดยทั่วไปก็จะทำการสอนผ่านโปรแกรมอย่าง Google Meet, Microsoft Team. Zoom และ Discord เป็นต้น

ช่องทางการขายคอร์สเรียน : Udemy, SkillLane, CourseSquare, TaladPanya, FutureSkill

13. เปิดไพ่ทาโรต์ รับดูดวง

รายได้ประมาณ 500 – 10,000 บาท / เดือน

คนไทยกับการดูดวงของคุ่กัน โดยเฉพาะสายมู! ไม่จำเป็นต้องมีพลังเหนือธรรมชาติ หรือ จิตสัมผัสแบบคุณริว เราก็สามารถเป็นหมอดูได้ ลองเริ่มศึกษาเกี่ยวกับไพ่ทาโร่ต์  ควบคู่กับการเรียนรู้พวกเรื่องโหราศาสตร์ต่างๆ อย่างการดูดวงจากวันเกิด ลายนิ้วมือ และโครงหน้า โดยหากเป็นมือใหม่อาจเริ่มรับดูดวงให้กับเพื่อนก่อนก็ได้ แล้วถ้าแม่นก็เริ่มเปิดรับดูดวงเป็นหมอดูแบบเต็มตัวซะเลยย

14. ไรเดอร์ส่งอาหาร

รายได้ประมาณ 10,000 – 30,000 บาท / เดือน

อาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร หรือ ฟู้ดเดลิเวอรี่ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพยอดฮิตในสมัยนี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน เวลาอยากกินอะไร ไรเดอร์นี้แหล่ะคือคนที่นำอาหารมาให้เรา แถมอาชีพไรเดอร์ก็เป็นได้ทั้งอาชีพเสริมและอาชีพหลักที่สร้างรายได้ได้ดีไม่น้อยเลยด้วย แล้วถ้าหากอยากผันตัวมาเป็นไรเดอร์ต้องลงทุนในอะไรบ้างนะ

อยากเป็นไรเดอร์ต้องลงทุนอะไรบ้าง?

  • ยานพาหนะ
  • ประกันรถ
  • อุปกรณ์ต่างๆ ของไรเดอร์ อย่างพวกชุดและกระเป๋า
  • ค่าซ่อมการเสื่อมราคาของยานพาหนะ

สมัครเป็นไรเดอร์เป็นอาชีพเสริมที่ไหนได้บ้าง: GrabFood, Foodpanda, Line man, Skootar

15. ขายของแฮนด์เมดที่ ETSY

รายได้ประมาณ 4,000 – 20,000 บาท / เดือน

ETSY เว็บไซต์ขายงาน “แฮนด์เมด” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข้อดีของ ETSY คือมีผู้ใช้งานจำนวนมากทำให้โอกาสที่งานเราจะขายได้นั้นมีสูงมากเช่นกัน และหน้าตาของเว็บไซต์ก็จะมีความเป็น Minimal ระดับนึง เน้นความสวยงามแบบเรียบง่าย โดยมีการแบ่งหมวดหมู่สินค้าออกเป็น 8 หมวดใหญ่ ดังนี้ งานศิลปะ เครื่องประดับ เสื้อผ้า รองเท้า ของตกแต่งบ้าน ของเล่น ของสำหรับงานปาร์ตี้และสินค้าวินเทจ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีจำกัดเฉพาะงานแฮนด์เมดเท่านั้น หากเป็นสินค้าที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ Digital File ก็สามารถขายที่นี่ได้ด้วย สำหรับค่าธรรมเนียม ETSY จะหักครั้งแรกเมื่อวางสินค้าลงบนแพลตฟอร์มชิ้นละ 0.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็น 6 บาทกว่าๆ) และเมื่อมีการซื้อ-ขายสินค้าแล้วจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการขายอีก 5 เปอร์เซ็นต์

16. เปิดร้านค้าออนไลน์กับ Shopify

รายได้ประมาณ 8,000 – 60,000 บาท / เดือน

เชื่อว่าคนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก Shopify มากนัก แต่มันก็คือแพลตฟอร์มประเภทหนึ่ง ที่เป็นเครื่องมือในการใช้สร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์แบบครบจบในขั้นตอนเดียว และเนื่องจากใช้งานง่ายมากๆ มีบริการ Support ที่รวดเร็ว ตลอดจนถึงระบบจัดการหลังบ้านให้เสร็จสรรพสมบูรณ์และมีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการสร้างเว็บไซต์ด้วย Shopify ก็ง่ายมากๆ แม้แต่มือใหม่ที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมก็สามารถสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของตัวเองได้ ทำให้ผู้คนที่สนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับ E-Commerce หันมาใช้ Shopify เป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือแบบครบวงจรจริงๆ

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shopify ได้ที่ : https://zortout.com/blog/what-is-shopify

17. Video Editor

รายได้ประมาณ 1,500 – 20,000 บาท / เดือน

อาชีพงานตัดต่อหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “Video Editor” สายงานนี้ยังคงเป็นที่ต้องการในปัจจุบัน โดยเฉพาะบริษัทมีเดียต่างๆ งานชนิดนี้ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบและกำลังมองหาอาชีพเสริมเกี่ยวกับการตัดต่อวิดีโออย่างมาก ส่วนโปรแกรมที่ใช้ในการทำงานก็มีทั้ง Davinci Resolve, Hitfilm Express, LightWorks Free Edition หรือ Adobe Premiere Pro แต่พอเอาเข้าจริงๆ งานตัดต่อวีดีโอที่อาจดูเหมือนง่ายมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะนอกจากตัดต่อวีดีโอแล้ว ก็ยังต้องตรียมองค์ประกอบต่างๆ ที่ต้องใช้, ใส่เอ็ฟเฟ็กต์, ใส่เสียง, แปลงวิดีโอเพื่อนำไปใช้งานจริงและอื่นๆ อีกมากมาย โดยรายได้จากการตัดต่อวีดีโอหนึ่งคลิปเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปยันหลักหมื่นเลย

18. Graphic Designer

รายได้ประมาณ 2,000 – 15,000 บาท / เดือน

หากชื่มชอบในการออกแบบก็ต้องขอแนะนำ อาชีพเสริม อาชีพนี้เลย นั้นก็คือ Graphic Designer นักออกแบบเจ้าพ่อทุกสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นป้ายจราจร แผ่นโฆษณา ปกหนังสือ รูปวาด ลายเสื้อ โลโก้ ตัวอักษร แผนที่และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนรายได้จากงานออกแบบทั่วไปส่วนมากก็จะมีไปตั้งแต่ 500 ถึงหลักพันไปจนหลักหมื่นเลย ขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์การของคุณด้วย พวกโปรแกรมที่ใช้ก็เช่น Photoshop, Adobe Illustrator, Adobe Premiere Pro เป็นต้น

ขั้นตอนในการทำ Graphic Designer เป็นอาชีพเสริม

  1. เลือกสายการออกแบบกราฟฟิก
  2. ศึกษาพื้นฐานเรื่องการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น Design Thinking หรือ Design Process
  3. ฝึกใช้เครื่องมือต่างๆ ให้ชินมือ
  4. เริ่มฝึกฝนการออกแบบ โดยลองนำงานของคนอื่นมาออกแบบใหม่
  5. พัฒนาเอกลักษณ์การออกแบบของตัวเองให้ไม่เหมือนใคร
  6. สร้างแฟ้มผลงานและโปรโมทตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ
  7. เริ่มรับงานครั้งแรกของคุณและทำมันให้ดีที่สุด

แหล่ง Upskill สำหรับ Graphic Designer

19. ที่ปรึกษาออนไลน์

รายได้ประมาณ 1,000 – 10,000 บาท / เดือน

เป็นอาชีพเสริมที่คุณสามารถใช้ความรู้เฉพาะด้านของคุณสร้างรายได้โดยการให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาในการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นได้ อย่างเช่น การให้คำปรึกษาทางการตลาด, ปัญหาทางด้านไอที, การทำธุรกิจ, กาทำบัญชี หรือการให้คำปรึกษาด้านการออกกำลังกาย ซึ่งงานประเภทนี้ก็จัดอยู่การให้บริการเกือบทั้งหมด

20. งานฟรีแลนซ์ด้าน IT

รายได้ประมาณ 40,000 – 60,000 บาท / เดือน

ถ้าให้พูดถึงหนึ่งในงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้สูง ก็คงหนีไม่พ้นงานฟรีแลนซ์ด้าน IT เช่น อาชีพ Developer, UX/UI Designer, Data Scientist หรือ Data Analyst เป็นต้น แถมยังเป็นสายงานที่ WFH ได้อีกด้วย ทำให้เหมาะกับการทำเป็นอาชีพเสริมมากๆ และงานของสายนี้จะมีตั้งแต่การพัฒนาเว็บไซต์, สร้างแอปพลิเคชั่น, ออกแบบเว็บไซต์ จนไปถึงการเป็นที่ปรึกษาด้าน IT เลยก็มี ส่วนเรื่องรายได้ก็เริ่มต้นตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท / ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์) ถือว่าเป็นอีกทางเลือกนึงในการหารายได้เสริมของใครหลายคนที่มีความชำนาญและชื่นชอบในด้านสายงาน IT 

ช่องทางการหางานด้าน IT จากแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ชั้นนำ : Talance, Upwork, Toptal, Fiverr

21. สร้าง Sticker Line ขาย 

รายได้ประมาณ 500 – 8,000 บาท / เดือน

อาชีพเสริม ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ การสร้าง Sticker Line ขาย ซึ่งส่วนมากเขาจะเรียกชื่องานประเภทนี้ว่า “Sticker Creator” เป็นงานที่ไม่ว่าใครก็ทำได้และไม่ยากอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว เรามาดูขั้นตอนการทำกันเลยย

แอปพลิเคชั่นและโปรแกรมที่ต้องมี

  • Line Studio
  • Procreate
  • Photoshop
  • Adobe Illustrator

4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการสมัคร Sticker Creator

  1. สมัคร Line Creator Market โดยเข้าไปที่ https://creator.line.me/th/ จากนั้นกดปุ่มลงทะเบียน เพื่อทำการสมัครสมาชิก
  2. จะต้อง Login บัญชีไลน์ของเราผ่าน QR Code หรืออีเมลก็ได้
  3. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
  4. ยืนยันอีเมล เพียงเท่านี้คุณก็มี Account ที่สามารถสร้างและลงขาย Sticker Line เป็น อาชีพเสริม ของตัวเองได้แล้ว 

หากใครสนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็น Sticker Creator ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ : https://salehere.co.th/articles/teaching-sticker-line-for-sale

22. ขายภาพถ่าย / วีดีโอ ออนไลน์

รายได้ประมาณ 1,000 – 10,000 บาท / เดือน

อาชีพเสริม ในการขายภาพถ่ายหรือวีดีโอออนไลน์เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว โดยเมื่อก่อนด้วยความที่เทคโนโลยียังไม่ได้มีความทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน เวลาจะถ่ายภาพอะไรก็ต้องใช้กล้องถ่ายรูปแบบเทพๆ ราคาแพงๆ หน่อย ถึงจะได้รูปที่ออกมาดีและสวย แต่เดี๋ยวนี้โทรศัพท์ที่เราใช้กันทุกวันก็พัฒนาไปไกลแบบที่เรียกว่าไกลมากๆ ขนาดที่ว่าถ่ายภาพเห็นดวงจันทร์กันเลย ทำให้ไม่ว่าใครที่มีโทรศัพท์ ก็สามารถถ่ายรูปภาพตามสถานที่หรืสิ่งที่ตัวเองชอบมาลงขายออนไลน์ได้ 

ซึ่งก่อนที่เราจะไปดูเว็บไซต์สำหรับการขายภาพในผ่านช่องทางออนไลน์ เราต้องมาทำความรู้จักกับการขายภาพกันก่อน จริงๆ จะเรียกว่าการขายภาพตรงๆ เลยก็คงไม่ได้ซะทีเดียว เพราะการลงภาพ Stock Photo จะเป็นการให้เช่า เพื่อนำไปใช้มากกว่า เพราะว่ายิ่งภาพของเราน่าสนใจ และมีความเกี่ยวข้องกับเทรนด์ที่คนกำลังต้องใช้รูปแนวนั้นอยู่ ก็ยิ่งทำให้คนอยากได้รูปเรามากขึ้น เช่น เราถ่ายรูปแมว แล้วนำไปลงขายทิ้งไว้ เมื่อมีคนกำลังอยากได้รูปแมว เพื่อนำไปโปรโมทสินค้า หรือนำไปใช้ประกอบผลงาน เขาก็จะมาซื้อภาพเราไป โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์นั้นเอง

ช่องทางการขายภาพออนไลน์

  • Crestock
  • CanStockPhoto
  • iStockphoto
  • 123RF
  • Shutterstock
  • Fotolia
  • Adobe Stock
  • Depositphotos
  • Dreamstime
  • Foap
  • Contributor Getty Images
  • Zaapi

23. Youtuber 

รายได้ประมาณ 1,000 – 40,000  บาท / เดือน

อาชีพอย่าง “Youtuber” เป็นอาชีพในฝันของหลายๆ คน โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ Gen Z แต่ถ้าให้พูดว่า Youtuber เป็น อาชีพเสริม ที่ทำควบคู่กับงานประจำก็ไม่ถูก เพราะสายงานนี้ต้องทุ่มเททั้งกายและใจจริงๆ แทบจะเป็นงานประจำอีกงานนึงแล้วก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการคิดไอเดียคอนเทนต์, หาข้อมูลทำคลิป, ตัดต่อวิดีโอ, จัดสรรเรื่องงบประมาณที่ใช้ในแต่ละคลิป และหากช่องใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะมีทีมงานที่ต้องคอยดูแล พูดได้เลยว่างานหนักแบบตะโกนน แต่ถึงอย่างนั้นทาง Talance ก็เตรียมขั้นตอนในการทำคลิปและไอเดียคอนเทนต์มาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว

แนวทางในการทำคลิป

  1. หาสิ่งที่ชื่นชอบ – การเริ่มต้นทำ Youtube ควรเริ่มจากสิ่งที่เราชื่นชอบและถนัด เพราะเราสามารถนำความชอบตรงนั้นมาปรับใช้เป็นหัวเชื้อผลิตไอเดียคอนเทนต์ที่เจ๋งๆ ได้ แล้วเราจะรู้สึกสนุกไปกับมัน 
  2. เตรียมเนื้อหาในการทำ – หลังจากที่ได้สิ่งที่ตัวเองชื่่นชอบแล้ว ต่อมาคือการทำการ Research หาข้อมูลว่าคนดูเขาสนใจอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เราชอบ เช่น ประเภทคอนเทนต์ แนวทางหรือสไตล์แบบไหน เป็นต้น
  3. การสื่อสารภายในคลิป – สุดท้ายคือการเริ่มลงมือถ่าย การพูดหน้ากล้องก็เป็นอีกวิธีนึงที่ทำให้เราสามารถสื่อสารความต้องการต่างๆ และเข้าถึงอารมณ์ของคนดูได้

ไอเดียในคิดคอนเทนต์

  • ถ่าย Vlog
  • พาทัวร์ห้อง บ้าน หรือที่ทำงาน
  • รีวิวของใช้ต่างๆ
  • แชร์สไตล์หรือไอเดียการแต่งตัว
  • ให้คำแนะนำ 
  • ทำคลิป Reaction
  • คลิป Challenge ต่างๆ
  • Unbox แกะกล่องปริศนา
  • แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
  • ทำคลิปสอนต่างๆ

ตัวอย่าง Youtuber ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน :  PEACH EAT LAEK, Bie The Ska, My Mate Nate, SpriteDer SPD, HEARTROCKER, Zbing z.และ Youtuber ท่านอื่นอีกมากมาย 

24. นักรีวิว / โปรโมทสินค้า

รายได้ประมาณ 1,000 – 30,000 บาท / เดือน

เคยเป็นกันไหมเวลาจะซื้อของอะไรสักอย่าง มันมักจะมีประโยคยอดฮิตอย่าง “ของชิ้นนี้น่าซื้อนะแต่.. ขอไปดูรีวืวก่อน” เข้ามาในหัวเราตลอด โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่กำลังจะซื้อของเครื่องใช้ เช่น เครื่องสำอาง สกินแคร์ และอื่นๆ อีกมากมาย นั้นจึงทำให้อาชีพ “นักริวิว / โปรโมทสินค้า” เกิดขึ้น 

อาชีพอย่างนักรีวิวนั้น เป็นอาชีพที่สามารถนำมาเป็นได้ทั้ง อาชีพเสริม และ อาชีพหลัก โดยงานที่นักรีวิวทำก็ คือ การอธิบายถึงคุณสมบัติของสินค้าชิ้นนั้น ทั้งข้อดี ข้อเสีย ความประทับใจที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้สินค้าและบริการเพื่อให้ผู้ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการตัดสินใจง่ายขึ้นจากการที่ได้ทดลองใช้โดยบอกต่อตามความรู้สึกจริงว่าดีหรือไม่โดยที่ไม่ได้ค่าจ้างจากการรีวิว จนเกิดเป็นความน่าเชื่อถือแล้วทำให้ผู้บริโภคคล้อยตาม ทำให้แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มหันมาจ้างนักรีวิวเพื่อให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น ซึ่งการจ้างต่อ 1 ครั้งก็จะมีไปตั้งแต่หลักพันไปยันจนหลักแสน ถือเป็นอีกหนึ่งในอาชีพเสริมที่สามารถสร้างรายได้ให้เราได้เยอะมากๆ

25. ปล่อยคอนโดรายวันใน Airbnb

รายได้ประมาณ 500 – 12,000 บาท / เดือน

ปัจจุบันหลายๆ คอนโดในประเทศไทยออกกฎไม่ให้มีการปล่อยเช่าคอนโดแบบ “รายวัน” หรือแบบ “รายสัปดาห์” กันมากขึ้น เนื่องจากผิดกฎหมาย พรบ.โรงแรม โดยวันนี้ Talance ก็นำเนื้อหาดีๆ จาก CheclRaka เกี่ยวกับการปล่อยเช่าคอนโด “รายวัน” หรือ “รายสัปดาห์” แบบถูกกฎหมายมาแบ่งปันทุกคนกัน 

หากสนใจอ่านบทความ “ปล่อยเช่าคอนโดรายวันใน Airbnb” เพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้และเป็นอาชีพเสริมสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ : https://www.checkraka.com/condo/article/115400

26. ขายของสะสม / ของหายาก

รายได้ประมาณ 500 – 5,000 บาท / เดือน

หลายคนคงเคยมีของสะสมที่ตัวเองเคยซื้อมาสะสมไว้ ซึ่งพอเวลาผ่านไปนานๆ เข้าก็รู้สึกว่าของชิ้นนั้นไม่ได้จำเป็นกับเราแล้ว ใจนึงก็อยากนำไปขายและอีกใจนึงยังอยากเก็บไว้ดูเป็นของต่างหน้า แต่รู้ไหมของบางอย่างที่คุณสะสมอาจเป็นของหายากก็ได้นะ บางทีราคาอาจจะขึ้นไปเป็น 5 ถึง 10 เท่าตามความหายากรวมถึงความของตลาดต่อของชิ้นนั้น และหากคุณมีของสะสมที่รู้สึกไม่จำเป็นอยู่ ก็สามารถนำมาขายเพื่อสร้างรายได้เป็นอาชีพเสริมได้เช่นกัน โดยในขั้นตอนแรกคือ การศึกษาของชิ้นนั้นก่อนว่า ราคาในปัจจุบันของสะสมชิ้นนั้นมีค่าเท่าไหร่ ต่อมาคือตรวจสอบว่ามีตำหนิตรงไหนไหม สุดท้ายคือดูความต้องการของตลาดที่มีต่อของชิ้นนั้นว่ามีความต้องการมากน้อยพวกใด

27. ขายของมือสองด้วยงบเริ่มต้น 0 บาท

รายได้ประมาณ 500 – 3,000 บาท / เดือน

อาชีพขายของมือสองเป็นอาชีพเสริมที่สามารถทำได้แม้ว่าจะมีงบแค่ 0 บาท เพราะหากลองมองรอบๆ ห้องหรือบ้านดูแล้ว ก็พบของที่ไม่ได้ใช้แล้วหลายอย่าง เช่น เสื้อผ้า พัดลม หม้อหุงข้าว และของเครื่องใช้อีกมากมายในบ้าน การนำของที่ไม่ใช้แล้วมาขาย เป็นการสร้างรายได้เสริมที่แทบจะไม่ได้ใช้ต้นทุนเลยสักบาท หรือพูดง่ายๆ คือ สามารถทำได้โดยมีงบแค่ 0 บาท แต่ถ้าหากอยากจริงจังขึ้นมาหน่อย การซื้อของสินค้ามือสองจากพ่อค้าแม่ค้าขายปลีกมาขายต่อก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องดูด้วยว่าร้านค้าขายปลีกร้านที่ตัดสินใจเลือกซื้อมามีความน่าเชื่อถือมากขนาดไหน ส่วนสินค้ามือสองที่คนนิยมซื้อมาขายกันก็เป็นพวก รองเท้า เสื้อผ้า และของใช้ต่างๆ 

28. รับจ้างพากย์เสียง

รายได้ประมาณ 4,000 – 20,000 บาท / เดือน

การพากย์เสียงเป็นสิ่งที่พวกเราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งการพากย์เสียงการ์ตูน พากย์เสียงหนังภาพยนตร์ ซึ่งอาชีพ “นักพากย์เสียง” คือผู้ที่ใช้เสียงในการแสดงและถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสื่อวิดีโอต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ การ์ตูน สารคดี รวมทั้งเสียงประกอบในรายการต่างๆ โดยหากเป็นมือใหม่ก็สามารถเริ่มฝึกได้จากการพากย์เสียงจากสคริปท์ไปก่อน และหากเริ่มพากย์ได้แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มอรรถรสบทบาทและความรู้สึกลงไปในบทที่พากย์ เช่น โมโห วิตกกังวล อับอาย รู้สึกผิด มีความสุข มีความหวัง เบื่อหน่าย  เพลิดเพลิน สะเทือนใจ อึดอัด เหน็ดเหนื่อย เป็นต้น 

29. Online Trainer

รายได้ประมาณ 1,500 – 30,000 บาท / เดือน

อาชีพเสริม นี้เป็นอาชีพที่เหมาะกับสำหรับคนที่รักในการออกกำลังกายมากๆ เพราะนอกจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบแล้ว ยังสามารถหารายได้จากมันได้ด้วย โดยส่วนมากการเป็น Online Trainer นั้น จะมีหน้าที่ช่วยลูกเทรน (คนที่มาให้เราเทรนนิ่งให้) ลดน้ำหนักหรือเพิ่มกล้ามเนื้อตามเป้าหมายที่ลูกเทรนตั้งไว้ ซึ่งการในทำ Online Trainer เป็น อาชีพเสริม สิ่งหนึ่งเลยที่จะทำให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นคือ “หุ่น” ของคุณ เพราะถ้าคิดดูเล่นๆ คุณก็คงไม่อยากไปเทรนกับเทรนเนอร์ที่ยังไม่สามารถดูแลหุ่นตัวเองได้เลยใช่ไหมล่ะ ส่วนต่อมาคือ “Certifications” การมีใบรับรองจากที่ต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มเครดิตให้คุณได้อย่างมาก 

แหล่งรวมคอร์สเรียนการเป็น Trainer ที่มี Certification หลังเรียนจบ

30. รับหิ้ว /  Pre-order สินค้า

รายได้ประมาณ 2,500 – 12,000 บาท / เดือน

คุณคงเคยได้ยินอาชีพ “ร้บหิ้ว” กันมาบ้างแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บอกได้เลยว่าอาชีพรับหิ้วสินค้าฮิตมากๆ ในสมัยนั้น โดยเฉพาะการรับหิ้วสินค้าเปิดตัวใหม่จากแบรนด์ดังที่เปิดขายแค่ใน Shop เท่านั้น อย่าง Louis Vuitton, Gucci หรือ Hermes ซึ่งในปัจจุบัน อาชีพเสริม นี้ก็ยังเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ได้ดีอยู่ แต่อาจจะเริ่มเห็นน้อยลงด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น หิ้วแล้วลูกค้าไม่จ่ายเงิน, หิ้วแล้วลูกค้าบอกของไม่ใช่ตามออร์เดอร์, ไปหิ้วไม่ทันของหมดซะก่อน เป็นต้น

ขั้นตอนการกับรับหิ้วสินค้า

  1. หาออร์เดอร์ลูกค้า ด้วยการไปเม้นต์รับหิ้วตามเพจหรือสร้างโพสรับหิ้วในกลุ่มต่างๆ 
  2. รับออร์เดอร์และรวบรวมออร์เดอร์จากลูกค้าทั้งหมดแล้วไปหิ้วทีเดียว แต่ก่อนไปหิ้วจะแจ้งลูกค้าก่อนว่ากำลังจะไปหิ้ว เพื่อให้ลูกค้าตอบและตัดสินใจซื้อของ
  3. ตกลงกับลูกค้าและคิดเงินค่าสินค้า ค่าหิ้ว และค่าส่งไปรษณีย์
  4. รอลูกค้าโอนเงินให้เรียบร้อย จากนั้นก็แพ็คของส่ง

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าบทความ “30 อาชีพเสริม ปี 2566” ที่ Talance นำมาให้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคน และช่วยให้มองเห็นแนวทางในการสร้างรายได้เสริมเพิ่มมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

อัปเดต 11 เทรนด์การออกแบบ UX UI ให้โดดเด่น ในปี 2023

ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์มีส่วนสำคัญต่อการทำธุรกิจอย่างมาก จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยี เว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ขึ้นมากมาย

Jo

09 May 2023 | 2 นาทีอ่าน

Gig Economy ทิศทางใหม่ของตลาดแรงงานที่บริษัทควรทำความเข้าใจ

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Gig Economy มาหลากหลายช่องทางตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังโควิด-19 ที่ตลา

admin

09 Jun 2022 | 1 นาทีอ่าน