พามาดูวิธีแต่ง Github Profile อย่างไรให้มืออาชีพ และน่าดึงดูด!

Jo

12 Feb 2024 | 1 นาทีอ่าน

Developer หลายคนก็น่าจะรู้จักเว็บไซต์  GitHub กันมาบ้างแล้ว เพราะบางคนใช้เจ้าตัว  GitHub ในการเก็บ Source Code แต่เจ้า GitHub ไม่เพียงแค่เก็บโปรเจกต์งานได้อย่างเดียว แต่ยังสร้าง  Portfolio เล็ก ๆ ได้อีกด้วย 

GitHub สามารถสร้าง Profile ที่ช่วยให้เราบ่งบอกความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างครบถ้วนน่าดึงดูด เพราะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ มาช่วยเราในการปรับแต่งหน้า Profile หลายฟีเจอร์ เช่น การเพิ่มรูปตรง Header ที่ทำให้ Profile เราไม่ได้มีแค่ text ล้วน ๆ หรือ การติด Badge แสดง Social ต่าง ๆ ของเรา แถมยังช่วยแสดงโปรเจกต์ที่ผ่านมาของเราอีก ครั้งนี้เราจะพามาดูวิธีการแต่ง Github Profile ให้น่าดึงดูด และครบถ้วนไปด้วยความเป็นมืออาชีพ

ตั้งรูปภาพโปรไฟล์และชื่อ ให้น่าเชื่อถือ

รูปภาพโปรไฟล์และชื่อ จะเป็นสิ่งแรกที่คนเข้ามาอ่านโปรไฟล์ของเราจะเห็น การตั้งรูปโปรไฟล์ก็ควรจะเป็นภาพที่คมชัดและมีความละเอียดสูง เลือกรูปภาพที่เห็นใบหน้าของเราชัดเจนและเหมาะสมดูน่าเชื่อถือ รวมถึงดูองค์ประกอบ การแต่งกาย และเป็นรูปที่ควรอัพเดทให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด การตั้งชื่อโปรไฟล์ ควรเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง หรือหากเรามีชื่อเสียงในด้านวิชาชีพที่มีชื่อเป็นนามแฝงที่คนส่วนมากรู้จัก ก็ใส่ไปได้เช่นกัน

ใส่ประวัติและคำอธิบายตัวเองในมุมต่าง ๆ

ประวัติของเรา หากมันน่าดึงดูดก็เหมือนเรามาเสนอขายของ แต่แค่เป็นการขายตัวเราเอง ผ่านประวัติส่วนตัว ดังนั้น ต้องทำให้สั้น กระชับ ตรงประเด็น และมีข้อมูลที่จำเป็น เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านเข้าใจภูมิหลัง ทักษะ และความสำเร็จของเราได้อย่างรวดเร็ว และควรกล่าวถึง ความสนใจของเรา งานอดิเรก บอกถึงที่อยู่ปัจจุบันที่เราทำงานอยู่ เผื่อ Recruitment ของบริษัทใดเข้ามาดู จะได้รู้ว่าเราสามารถเดินทางมาร่วมงานกับเขาได้หรือไม่ และเพื่อความสะดวกแก่เราที่จะได้รับข้อเสนองานที่เดินทางได้ง่าย และตรงกับเรามากที่สุด 

ปรับแต่งโปรไฟล์ของคุณให้ไม่น่าเบื่อ

ในเว็บไซต์ GitHub จะมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรานำมาเล่นได้หลากหลาย บางอย่างมีแทมแพลตที่ครีเอเตอร์ท่านอื่นทำไว้บ้างแล้ว และแจกฟรีให้เราได้นำมาปรับแต่งกับโปรไฟล์เราได้ ในเว็บไซต์ GitHub ก็จะมี Customization Features ของ GitHub ช่วยปรับแต่งโปรไฟล์ของเรา เราสามารถเลือกใช้ Professional Profile README เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านโปรไฟล์ของเรา ได้เห็นถึงภาพรวมของงานและรายละเอียดของ Project ที่เราเคยทำมาได้ หรือเราเองก็สามารถ ปักหมุด Top Repositories ที่เราต้องการให้คนอื่นเห็นไว้ที่โปรไฟล์ของเราได้ การปรับแต่งเช่นนี้ จะทำให้คนที่เข้ามาดูโปรไฟล์ของเราไม่ต้องเสียเวลานั่งเลื่อนอ่าน ในกรณีที่เขาไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งอ่านละเอียด เขาก็จะได้เห็นสิ่งที่เราต้องการนำเสนอได้ง่ายขึ้น ผ่านการแต่งโปรไฟล์ของเรา

ใส่ Projects และ Contributions ที่เคยทำมา

แสดงความเป็นมืออาชีพผ่านทาง Contributions และ Projects ของเรา ใช้ Contribution Graph เพื่อเอามาเน้นกิจกรรมของเราให้คนที่เข้ามาอ่านได้เห็นมัน และเราเองก็สามารถ Create และ Maintain Repositories ที่หลากหลายในหน้าโปรไฟล์ที่โชว์ได้ หรือเราจะทำการโชว์ Projects ที่ทำงานร่วมกันใน Open-source Projects ให้กับคนอื่นที่เข้ามาชมได้เห็น

ระบุทักษะต่าง ๆ และความสำเร็จที่เราเคยเรียนรู้มา

การะบุทักษะต่าง ๆ จำเป็นมากที่ต้องมีบนโปรไฟล์เรา เพราะช่วยให้  Recruitment  ของบริษัทต่าง ๆ เข้ามาเห็นได้ง่ายขึ้น เพิ่มทักษะและเทคโนโลยีต่าง ๆ ไว้ในโปรไฟล์ของเรา หากเรามีการเรียนรู้อบรมจนมีใบ Certificates ก็ควรใส่ไว้ด้วย และที่สำคัญเน้นทักษะภาษา Programming หรือเครื่องมือที่เราเชี่ยวชาญ โดยแบ่งเป็นตามหัวข้อให้ดูได้ง่ายขึ้นแบบในรูปตัวอย่างด้านล่าง

ปรับแต่ง GitHub README 

GitHub README ถูกเอามาใช้แต่งโปรไฟล์เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เราสามารถใช้ตัว Markdown เพื่อจัดรูปแบบที่เราต้องการให้คนเข้ามาอ่านผลงานของเรา เค้าอ่านและเข้าใจง่าย เลือกโปรเจกต์ที่ดีที่สุดของเรามาใส่ ใส่คำอธิบายในแต่ละโปรเจกต์ถึงจุดประสงค์ของโปรเจกต์ที่เรานั้นทำ ตัว README สามารถใส่ภาพ Screenshots, GIFs และ Link ต่าง ๆ ให้คนกดเข้าไปดู เพื่อเพิ่มความสนใจให้มากขึ้นอีกด้วย

สรุป

Developer  หลายคนที่ใช้เว็บไซต์ GitHub อยู่ก็อาจหันมาสร้างโปรไฟล์ตัวเองไว้ในนี้ได้อีกช่องทางหนึ่ง หากสร้างตามที่เราได้นำมาบอก ก็จะช่วยเพิ่มวิธีดึงดูดให้คนเข้ามาสนใจเพิ่มขึ้น แถมยังช่วยเราได้จัดระเบียบผลงานเรา เพิ่มช่องทางการโชว์ผลงาน และนำเสนอตัวเองผ่าน GitHub Profile อีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องหมั่นเข้ามาอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ และอาจลองใช้ฟีเจอร์อื่นที่มากกว่าที่เรานำเสนอไปเพื่อแต่งโปรไฟล์ใหม่ ๆ ด้วยตัวเองได้อีกด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

เคล็ดไม่ลับสำหรับองค์กร เพื่อลดจำนวนพนักงานลาออก !

ในยุคที่ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนงานบ่อยของพนักงานก็เป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อยมากขึ้น การทำงานในบริ

Jo

11 Mar 2024 | 1 นาทีอ่าน

เจาะลึกการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานยังไงให้มืออาชีพ

การได้เตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์งานจะช่วยให้เราได้เป็นผู้สมัครที่มืออาชีพขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรก หรือไม่ใช่

Jo

29 Feb 2024 | 1 นาทีอ่าน

เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร ด้วยรูปแบบ Job Sharing

การแบ่งงาน เป็นอีกวิธีที่ช่วยยืดหยุ่นการทำงานให้แก่พนักงานได้ดี สถานประกอบการใช้วิธีนี้ในการเข้ามาช่วยทำงานให้แก่พนักงาน

Jo

20 Feb 2024 | 1 นาทีอ่าน

ทำไมกระบวนการ Onboarding ที่มีประสิทธิภาพถึงสำคัญกว่าที่คุณคิด

เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่าวิธีการทำงานจะเปลี่ยนไปขนาดไหน จะเป็นการทำงานแบบ Hybrid หรือ Flexible Work การมีพนักงานใหม่เข

Jo

23 Jan 2024 | 1 นาทีอ่าน