อยากลาออก แต่เจ้านายรั้งไว้ด้วย Counter Offer แบบนี้ควรรับไหม ?
Counter Offer คืออะไร ?
ข้อเสนอที่บริษัทปรับให้ เช่นเงินเดือนสวัสดิการต่างๆที่เคยมีให้เพิ่มขึ้นจากเท่าเดิม มีไว้ไม่ให้พนักงานคนนั้นลาออก ซึ่งจะทำให้พนักงานเกิดความลังเลหรือตัดสินใจไม่ถูก และสร้างความกดดันต่อพนักงาน ทาง HR มักใช้ข้อเสนอนี้เพราะถ้าหาพนักงานใหม่อาจต้องสอนงานกันใหม่ เริ่มจากการอดทนใหม่และอาจเสียเวลาในการตามหาอีก บริษัทจึงเลือกตัดปัญหาการลาออกด้วยการเสนอ Counter Offer เพื่อรั้งพนักงานไว้ให้ทำงานต่อองค์กรต่อไป
ทำไมเจ้านายต้องรั้งไว้ด้วย Counter Offer
เหตุผลหลักๆคือการรั้งคนเก่งไว้ไม่ให้ออกจากองค์กร การรั้งพนักงานที่มีความสามารถและไม่ต้องคอยสอนงานกันใหม่ไว้ องค์กรเองก็ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาพนักงานใหม่เพิ่ม เพราะกว่าจะหาคนได้นั้นอาจใช้เวลาถึงหลายเดือน และก็ไม่ต้องเสียเงินจ้างพนักงานใหม่ที่ต้องจ่ายเงินเดือนมากกว่าเดิมอีกด้วย พนักงานเก่าก็จะมีความอดทนต่อสภาพแวดล้อมขององค์กร อดทนต่อความกดดันได้ดีกว่า ซึ่งปกติมักใช้กับพนักงานที่มีความสำคัญกับองค์กร เช่น พนักงานตำแหน่งระดับสูง ตำแหน่งที่มีคนมาแทนได้ยาก หรือตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่สำคัญก็คือ ทุก ๆ การลาออกส่งผลกระทบรุนแรงต่อบริษัท
เป็นการรักษาผลประโยชน์ขององค์กร เพราะจะไม่เสียเวลาในการจัดหาพนักงานใหม่
การหาพนักงานใหม่แต่ละครั้งอาจใช้เวลานาน บางตำแหน่งอาจใช้เวลาถึง 2 เดือน และเมื่อหาคนใหม่มาแทนก็จะต้องมีการสอนงานกันใหม่และปรับตัวกันใหม่ นั้นทำให้กว่าจะได้พนักงานที่ตรงใจและไม่ต้องเพิ่มตำแหน่งมาแทนพนักงานที่ลาออกไปนั้นทำได้ยากมาก องค์กรจึงอยากรักษาผลประโยชน์ทางเวลาตรงนี้ไว้
องค์ยังคงทำงานต่อไปได้อย่างไม่สะดุด
เมื่อคุณตัดสินใจลาออกไปนั้นทำให้งานที่ได้รับมอบหมายไว้นั้นต้องหยุดลง หรืออาจมีการโอนย้ายให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น แต่ก็ทำให้เกิดการสะดุดในงานนั้น และอาจทำให้ส่งงานให้กับลูกค้าล่าช้า องค์กรก็จะต้องมานั่งหาคนทำงานในส่วนนั้นแทน บางงานอาจต้องปิดจบโดยที่ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์
หากคุณรับ Counter Offer ไว้ อาจต้องเจอสิ่งนี้
1.ความภักดีต่อองค์กรของคุณหายไป
ภาพจำที่คุณนั้นทำงานแบบถวายหัวให้บริษัทจะหายไปทันทีที่เรานั้นแจ้งลาออก ก็จะถูกแทนที่ด้วยความไม่แน่นอนที่เจ้านายมองมาว่าคุณจะยังไงต่อเพราะถ้ามีการยื่นลาออกครั้งแรกก็อาจมีครั้งที่สอง เขาอาจปฎิบัติกับคุณเช่นเดิมแต่ก็มีการเผื่อใจไว้เช่นกันว่าคุณอาจจะลาออกอีก ซึ่งหากมีการปรับตำแหน่งเขาอาจปรับให้กับคนที่ไม่เคยคิดจะลาออก คุณอาจไม่อยู่ในรายชื่อนั้นด้วยความไม่ไว้ใจและความไม่แน่นอนว่าคุณจะอยู่คู่บริษัทนี้อีกนานไหม
2.เกิดการผิดใจในหมู่พนักงาน เมื่อคนอื่นรู้ว่าพนักงานที่ได้รับข้อเสนอได้สิทธิประโยชน์เหนือกว่า
หากเพื่อนร่วมงานรู้ข่าวที่คุณลาออก คุณจะพบกับความอึดอัดใจในการทำงาน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ถูกนินทาในเรื่องข้อเสนอที่คุณได้รับ ซึ่งอาจจะเป็น “สิทธิพิเศษ” ที่ได้มากกว่าเพื่อนร่วมทีมของคุณอีกด้วย เหนื่อยกับงานคงไม่เท่าไหร่แต่หากต้องมาเหนื่อยกับคนการลาออกอาจเป็นการตัดสินใจที่ดีกว่าเพื่อไปเจอสังคมใหม่ๆ
3.ปัญหาเดิมๆยังคงอยู่ แม้จะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม
การได้รับข้อเสนอใหม่ๆอาจไม่ได้ช่วยในการยุติปัญหาในที่ทำงานที่เป็นเหตุที่ทำให้คุณนั้นลาออกได้ ข้อเสนออาจเป็นเพียงความน่าสนใจชั่วคราวที่เข้ามา แต่หากคุณลองคิดดูดีๆ ปัญหาหนักใจอันเป็นเหตุที่ทำให้คุณนั้นตัดสินใจลาออกจะยังคงอยู่ต่อแม้ว่าคุณจะตอบตกลงรับข้อเสนอนั้นไปแล้ว
4.การเลื่อนตำแหน่งของคุณอาจเป็นเพียงการพูดปากเปล่า
“หากเป็นเพียงแค่คำพูดปากเปล่าไม่ได้มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษรมันอาจจะไม่เกิดขึ้นจริง” บางทีคุณอาจต้องรอนานเป็นปีกว่าเขานั้นจะเลื่อนตำแหน่งให้อีกด้วย คุณอาจจะต้องทนอยู่กับปัญหาหนักใจของคุณ กับภาระงานเท่าเดิม เงินเดือนเท่าเดิม แถมไม่มีวี่แววในการเลื่อนตำแหน่ง
5.บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณตั้งแต่แรก
หากทางบริษัทเห็นคุณค่าของคุณตั้งแต่แรกจะทำการเลื่อนตำแหน่งให้คุณตั้งนานแล้ว ไม่รอให้เรานั้นตัดสินใจลาออก หรือรอให้เราสุดจะทนจริงๆถึงได้มีการเลื่อนให้ อีกอย่างค่าเฉลี่ยเงินเดือนที่เราทำอยู่อาจทำกว่าท้องตลาดที่เขานั้นให้กัน คุณอาจจะต้องเปรียบเทียบเงินเดือนตำแหน่งเดียวกันแค่คนละบริษัทได้แล้ว
สรุป
ทุกการตัดสินใจของคุณนั้นควรคิดให้ดีและรอบคอบเพราะทุกกการตัดสินใจนั้นมีความเสี่ยง หากตัดสินใจพลาดอาจทำให้เรานั้นพลาดโอกาสดีๆที่เรานั้นตัดสินใจอยู่ต่อ เพียงเพราะติด Comfort Zone ของที่ทำงานเก่า เพราะ HR เขารับรู้วิธีในการแก้ไขปัญหานี้ แต่ตัวเรานั้นหากต้องเจอกับปัญหาที่เกิดจากการตัดสินใจผิดๆนั้น เราจะทำเช่นไร แต่ทาง Talance เชื่อว่าทุกคนนั้นมีวิธีปรับตัวและเอาตัวรอดกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งที่แน่นอนและไม่แน่นอนอยู่แล้ว