7 วิธีในการใช้ ChatGPT สำหรับ Developer ง่ายๆ เพียงแค่แชท

ปี 2022 ที่ผ่านมามีเรื่องฮือฮาอย่างมากเกี่ยวกับเจ้า Chat GPT แชทบอทอัจฉริยะที่สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็วผ่านช่องทางแชทซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท OpenAI เจ้าเก่าเจ้าเดิมกับที่เคยสร้างความสำเร็จมาแล้วกับเจ้า DALL·E โปรแกรมจิตกรปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสรรค์รูปภาพ จาก text caption ได้ 

แม้พึ่งจะเปิดตัวได้ไม่นานแต่กลับมีจำนวนผู้ใช้สูงถึง 1 ล้านคนในสัปดาห์แรกและในขณะนี้มีผู้ใช้อยู่ถึง 100 ล้านคนด้วยกัน ด้่วยความสามารถที่น่าทึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าเจ้าแชทบอทอัจฉริยะนี้ คืออะไร ใช้ยังไง แล้วสามารถเข้ามาช่วยในงานของเราได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะ developer ที่อยากจะลองใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 

จุดกำเนิดของ ChatGPT 

OpenAI คือผู้อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาและถูกเปิดตัวในปี 2022 โดยมีการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่จากตระกูล GPT-3.5 และ GPT-4 ของ OpenAI เป็นพื้นฐาน โดยได้รับการปรับแต่งเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสื่อสารผ่านแชทโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบสอนด้วยตัวอย่างและ reinforcement learning ซึ่งเป็นการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ที่อาศัยการตอบสนองจากสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนามาตรฐานการกระทำที่เหมาะสมในกระบวนการ transfer learning

ChatGPTคืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร

แชทจีพีที คือ Chatbot ที่เป็นเครื่องมือประมวลผลทางภาษาด้วย AI โดยใช้เทคโนโลยี GPT (Generative Pre-trained Transformer) ซึ่งเป็นโมเดล deep learning ที่ใช้เรียนรู้จากข้อมูลขนาดใหญ่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้คุณสามารถตอบโต้และสนทนาหรือไขข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาที่คุณต้องการได้ เปรียบเสมือนคุณกำลังคุยกับเพื่อนอยู่คนหนึ่ง มากไปกว่านั้นก็ยังสามารถเข้าไปช่วยงานต่างๆของคุณได้ เช่น จัดตารางการประชุม เขียนอีเมล์และบทความ รวมถึงการเขียนโค้ด 

จุดเด่น

• สามารถสร้างงานเขียนได้ เช่น บทความ เนื้อเพลง หรือ อีเมล์
• ช่วยคิดไอเดียใหม่ๆ สำหรับสายทำคอนเทนต์
• ช่วยตอบคำถามทั่วๆไป เช่น สภาพอากาศวันนี้ คิดเลข หรือการหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
• ช่วยเขียนโปรแกรมและหาวิธีแก้ไขสำหรับโค้ดที่ debugging ได้

แต่เพื่อนๆ หารู้ไม่ว่า ไม่เพียงแค่เก่งในการช่วยทำงานทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถพิเศษที่เหมาะสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมด้วย เช่น การสร้างโมเดลการเรียนรู้แบบสอนด้วยตัวอย่าง (Generative Learning Model) หรือช่วยในการเขียนโค้ด (Code Generation) ด้วยความเข้าใจในภาษาธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ในการสร้างแชทบอท (Chatbot) ดังนั้นมันจึงเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัยขึ้น ดังนั้นเรามาดูกันดีกันดีกว่าว่า developer สามารถใช้แชทบอทให้มีประสิทธิภาพทำได้อย่างไรบ้าง 

7 วิธีการใช้ที่มีประโยชน์ต่อ Developer

1. การสร้างโค้ด (Generating code)

ในเชิงการสร้างโค้ด ChatGPT ถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพราะสามารถเข้าใจและแปลงความต้องการของ dev เป็นโค้ดได้อย่างถูกต้องด้วยทักษะการประมวลภาษาที่ธรรมชาติของมัน ดังนั้นแล้วจึงสามารถประหยัดเวลาได้ในการสร้างโค้ดในงานที่ซ้ำซ้อนหรือโค้ดพื้นฐานได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถสร้างโค้ดที่ซับซ้อนได้ เช่นการสร้าง class หรือ module ทั้งหมด โดย dev ที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาโปรแกรม หรือโครงสร้างของซอฟต์แวร์ก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เวลานานกับพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับมือใหม่ 

โดยรวมแล้ว คุณลักษณะการสร้างโค้ดของที่ได้ออกมานั่นก็จะสามารถช่วยให้นักพัฒนาทุกระดับความชำนาญเน้นไปที่ด้านความสำคัญของโปรเจกต์ได้ ช่วยลดเวลาในการทำงานที่เป็นซ้ำซ้อนและใช้เวลานาน ช่วยลดความเสี่ยงในการทำผิดและความไม่สอดคล้องของโค้ดได้

ภาษา programming ที่สามารถสร้าง ได้แก่

• Javascript
• Python
• C#
• PHP
• Java

2. การสร้างเอกสารโค้ด (Generating Code)

ด้วยความสามารถในการประมวลผลทางภาษาที่ชาญฉลาดของ ChatGPT ทำให้สามารถสร้างเอกสารที่ระบุข้อกำหนดของโค้ดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นประโยชน์และทำให้ประหยัดเวลาโดยเฉพาะสำหรับ Developer ที่มักต้องใช้เวลาในการทำเอกสารที่ครอบคลุมสำหรับโค้ดของตนเอง

Dev ยังสามารถป้อน code snippet และป้อนคำสั่งเพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติมพร้อมสร้างเอกสารอธิบายเจตนาของฟังก์ชั่น อินพุท อินพุท เอาต์พุท และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่น ๆได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถสร้างเอกสารสำหรับ class หรือ module ทั้งหมดที่มอบภาพรวมอย่างละเอียดของโค้ดได้อีกด้วย  นอกจากนี้ยังสามารถจัดเตรียมเอกสารประกอบในรูปแบบต่างๆได้ เช่น Markdown, HTML หรือ JSDoc ทำให้นักพัฒนานำเอารวมเข้ากับโปรแกรมแก้ไขโค้ดของตนเองได้ง่าย

ความสามารถในการสร้างเอกสารโค้ดจึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับ developer ทุกคน เนื่องจากมันช่วยให้เพื่อนๆ ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นในการเขียนเอกสารอธิบายโค้ด ในเวลาเดียวกันยังช่วยทำให้กระบวนการในการอธิบายโค้ดเสร็จสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถสร้างเอกสารอธิบายโค้ดที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อความเข้าใจของ dev คนอื่น ๆ ด้วย

3. การเขียนทดสอบระบบ (Writing test cases)

ChatGPT สามารถช่วย dev ในการเขียน test case ได้หลายวิธี วิธีหนึ่งในนั้นคือการจดจำวัตถุประสงค์ของ test case และนำไปสร้างข้อมูลนำเข้าและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ เช่น ถ้านักพัฒนาป้อนคำสั่งให้เขียน test case ที่สามารถจัดการข้อมูลนำเข้าที่ไม่ถูกต้องได้ ในกรณีนี้ อาจสร้างข้อมูลนำเข้าที่ไม่ถูกต้อง เช่น ตัวอักษรพิเศษ สตริงว่าง และค่าที่อยู่นอกช่วงที่กำหนดไว้ 

อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการระบุตรรกะและโครงสร้างของโค้ดที่นัก code ให้มา ด้วยเหตุนี้มันจึงสามารถเขียน test case ที่ครอบคลุมเส้นทางการทำงานของโค้ด เช่น ถ้านักพัฒนาให้ตัวอย่างโค้ดและป้อน code snippet ว่า โค้ดนี้ต้องสามารถจัดการชุดข้อมูลใหญ่ได้ ในกรณีนี้ ChatGPT ก็จะตอบกลับมาเป็นวิธีการสร้างข้อมูลนำเข้าที่มีชุดข้อมูลใหญ่ได้

อีกทั้งยังสามารถสร้างเอกสารสำหรับ test case ได้โดยมันสามารถสร้างคำอธิบายที่สั้นและเข้าใจง่าย เช่น คำอธิบายของข้อมูลนำเข้า ผลลัพธ์ที่คาดหวังและเงื่อนไขภายใต้ test case ว่าควรผ่านหรือไม่ผ่าน ด้วยเหตุนี้ นักพัฒนาที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทดสอบก็สามารถอัพเดทกรณีทดสอบได้อย่างรวดเร็ว

4. ลดความซับซ้อนของโค้ดด้วยคำอธิบายที่เข้าใจง่าย (Simplifying complex code snippet) 

นักพัฒนาสามารถสร้างคำอธิบายที่ใช้ภาษาเรียบง่ายในส่วนของโค้ดที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจและบำรุงรักษาโค้ดได้ง่ายขึ้น การสร้างคำอธิบายและเอกสารของโค้ดโดยอัตโนมัตินั้นช่วยให้ชาว dev เข้าใจโค้ดง่ายขึ้นได้และยังประหยัดเวลาและพลังงานได้อย่างมากจากการใช้ ChatGPT และยังช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำการ refactor และ optimize โค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่นโมเดลสามารถประเมินโค้ดและแนะนำวิธีการปรับปรุง เช่น ลดจำนวนบรรทัดของโค้ดหรือเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ ทำให้โค้ดอ่านง่ายและจัดการได้ง่ายขึ้น และลดจำนวนของ bug ในโค้ดได้เช่นกัน

5. การสร้างโค้ดทางเลือก (Generating alternative codes)

สำหรับ dev ที่พยายามสร้างโค้ดทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นนั่น ChatGPT สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ได้ เพราะมันสามารถเข้าใจภาษาโปรแกรมและรูปแบบการเขียนโค้ดได้หลายอย่าง เนื่องจากได้รับการฝึกฝนด้วยจำนวนโค้ดที่มากมาย ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถสร้างโค้ดทดแทนที่มีประสิทธิภาพสูงและยังช่วยทำให้โค้ดมีความเข้าใจง่ายและสามารถบำรุงรักษาได้ง่ายขึ้น

ChatGPT สามารถแนะนำวิธีการปรับปรุงโค้ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ ยกตัวอย่างเช่น โมเดลสามารถประเมินค่าโค้ดและแนะนำวิธีการปรับปรุงโดยลดจำนวนการดำเนินการหรือจำกัดการใช้หน่วยความจำได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ dev สามารถเขียนโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น

6. การตรวจหาข้อผิดพลาดในโปรแกรมและการปฏิบัติตามหลักการเขียนโค้ดที่ดี (Tracking down bugs and applying good code practices)

สำหรับ dev ที่ต้องการหาข้อผิดพลาดของการเขียนโค้ด เจ้าแชทบอทอัจฉริยะก็สามารถให้คำแนะนำได้โดยสร้างกลยุทธ์ในการตรวจหาข้อผิดพลาดและสามารถใช้เพื่อค้นหาข้อผิดพลาดได้ เช่น โมเดลสามารถตรวจสอบโค้ดและแนะนำวิธีต่างๆที่นักพัฒนาสามารถดำเนินการเพื่อค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาด ด้วยเหตุนี้นักพัฒนาไม่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหาสาเหตุของข้อผิดพลาดได้ ซึ่งสามารถช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมากๆ

ChatGPT ยังสามารถให้คำแนะนำในการแก้ไขโค้ดและเพิ่มความเป็นระเบียบให้กับโค้ดได้อีกด้วย เช่น ตัวโมเดลอาจตรวจสอบโค้ดและแนะนำวิธีการเรียงโค้ดใหม่เพื่อทำให้โค้ดอ่านง่ายขึ้นซึ่งทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและปลอดภัยจากบั๊ก โดยการแก้ไขโค้ดให้ดีขึ้นนี้สามารถช่วยลดจำนวนบั๊กและลด development cycle ของโปรแกรมได้ ดังนั้นคุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

7. การรวบรวมข้อมูลและการวิจัย (Information gathering and research)

ChatGPT สามารถใช้ค้นหาข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมได้ คล้ายกับเครื่องมือการค้นหาและเว็บไซต์ทั่วไปเหมือนกับ Stack Overflow ซึ่งตัวโมเดลสามารถเข้าใจแนวคิดการเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อนและส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับนักพัฒนาได้โดยตรง

คุณสามารถใช้เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาโดยตอบคำถามที่ไม่ซ้ำหรือหลายๆข้อได้ ตัวอย่างเช่น dev สามารถใช้ถามคำถามทางเทคนิคเกี่ยวกับภาษาโปรแกรมหรือแนวคิดต่างๆ จากนั้นโมเดลจะตอบสนองด้วยคพตอบที่เหมาะสมตามข้อมูลที่ได้รับจากการฝึกอบรมมา ซึ่งมื่อเทียบกับการค้นหาแหล่งข้อมูลหลายๆแห่งแล้วมันจึงเหมาะมากกับผู้ที่ต้องหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว มากไปกว่านั้น 

มากไปกว่านั้น ก็สามารถเป็นเครื่องมือค้นหาโค้ด สามารถให้ตัวอย่างโค้ดและไอเดียในการเขียนโค้ดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นักพัฒนาสามารถถามคำถามเพื่อขอตัวอย่างโค้ดเฉพาะหรือไอเดียในการเขียนโค้ดได้

สรุปข้อดี-ข้อเสียของ

ข้อดี

• ช่วยในการแก้ไขโค้ดด้วยการแนะนำวิธีการ debug และการปรับปรุงโค้ดเพื่อลดจำนวน bugเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาโปรแกรม
• ช่วยในการเข้าใจและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรม โดยสามารถตอบคำถามทางเทคนิค และส่งข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว
• ช่วยในการเขียนโค้ดด้วยการแนะนำโค้ดสั้นๆ และสามารถแปลงคำอธิบายเป็นโค้ดได้เลย

ข้อเสีย

• โมเดลไม่สามารถแก้ไข bug ให้ได้ทั้งหมด และอาจให้คำแนะนำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ตรงตามความต้องการ
• อาจไม่มีความแม่นยำในการตอบคำถามทางเทคนิคเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นๆ ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง
• อาจต้องการใช้ข้อมูลจากภายนอกเพื่อตรวจสอบคำตอบที่ถูกต้องก่อนนำไปใช้ในการพัฒนาต่อไป

ผลกระทบต่ออนาคตของงานฟรีแลนซ์ developer

ChatGPT ถือว่าเป็นหนึ่งเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของงานฟรีแลนซ์ developer โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเข้าถึงข้อมูลและความรู้ที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากสามารถเข้าใจและตอบคำถามทางเทคนิคและโค้ดได้ดี และยังสามารถให้ตัวอย่างโค้ดและไอเดียการเขียนโปรแกรมได้อีกด้วย

สำหรับฟรีแลนซ์ developer สิ่งนี้ถือเป็นเครื่องมือค้นหาความรู้เพิ่มเติมที่จำเป็นในการทำงานจะช่วยประหยัดเวลาและความพยายามในการค้นหาข้อมูล นอกจากนี้ยังสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มในการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ฟรีแลนซ์ developer สามารถปรับตัวไปตามความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ฟรีแลนซ์ developer ใช้เวลาน้อยลงในการเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานและเพิ่มโอกาสในการรับงานได้ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยง

สรุป

การใช้ ChatGPT สำหรับ developer สามารถใช้ได้หลากหลายอย่าง เช่น ให้ข้อมูลและตัวอย่างโค้ดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถให้คำแนะนำหรือคำตอบเกี่ยวกับปัญหาในการเขียนโค้ดหรือการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดเวลาในการหาข้อมูลและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หากเพื่อนๆสนใจที่อย่างจะลองใช้ก็สามารถเข้าไปลองเล่นได้ ที่นี่