10 สิ่งที่ฟรีแลนซ์ต้องรู้

10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์ (ฉบับสมบูรณ์)

Jo

01 Mar 2023 | 1 นาทีอ่าน

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์มีอะไรบ้าง ? ปัจจุบันอาชีพอิสระหรือที่เราเรียกกันว่า “ฟรีแลนซ์” เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่อยากหารายได้เสริมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผ่อนบ้าน ค่ารถ ค่าบัตรเครดิต และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งอาชีพฟรีแลนซ์ก็เป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะเราสามารถกำหนดเวลาทำงานรวมถึงเวลาเลิกงานของเราได้ เรียกได้ว่าเป็นนายของตัวเองนั้นเอง 

ซึ่งในบางครั้งการเริ่มต้นเป็นฟรีแลนซ์อาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับมือใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี” และการแข่งขันที่สูง จนพอเริ่มทำไปก็รู้สึกท้อเพราะทำไปเท่าไหร่ก็ไม่มีลูกค้าสักทีหรืออาจมีแต่ก็มีน้อยมาก ทำให้ฟรีแลนซ์มือใหม่หลายคนต้องกลับไปทำงานประจำแบบเดิมแทน 

แต่ถ้าหากเรารู้ก่อนล่ะว่า “สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์“ นั้นมีอะไร และคืออะไรบ้าง คงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหม เพราะการที่เรารู้แล้วว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนและมีอะไรบ้างที่ควรต้องรู้ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าเทียบการที่เริ่มต้นแบบผิด ๆ ถูก ๆ และถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่าว่า 10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์นั้นมีอะไรบ้าง !

10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์ 

1. เป็นฟรีแลนซ์ไม่ง่ายอย่างที่คิด

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์อย่างแรกเลยคือ “เป็นฟรีแลนซ์ไม่ง่ายอย่างที่คิด” ถึงแม้ว่าอาชีพฟรีแลนซ์จะเป็นอาชีพอิสระก็ตาม แต่ถ้าคิดจะออกจากงานประจำและผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวโดยที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมหรือวางแผนอะไรไว้ล้วงหน้าก็ฟังดูเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ทางที่ดีคือเราควรคำนึงถึงพวกเงินทุนก่อนว่าถ้าออกมาจากงานประจำแล้ว อีก 6 เดือนข้างหน้าเราจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่ได้รับเงินเดือนเลย แถมยังมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามาอีก 

ถ้าคำตอบคือ “ไม่” เราก็อาจทำฟรีแลนซ์ควบคู่กับงานประจำไปก่อน แต่ต้องจัดสรรเวลาการทำงานให้ดีและอย่าให้กระทบกับงานประจำที่ทำอยู่ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะไม่มีปัญหากับบริษัทที่ทำงานอยู่หรอ? ไม่ต้องห่วงไป ! เพราะ Talance ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ “ทำงานเสริมนอกเวลา ผิดกฎหมายไหม?” เอาไว้สำหรับทุกท่านได้เข้าไปอ่านแล้ว และหลังจากที่คิดว่ามีเงินทุนเพียงพอแล้วก็ค่อยลาออกจากงานประจำเพื่อไปเป็นฟรีแลนซ์แบบเต็มตัว 

2. ค้นหาตัวเอง

ค้นหาว่าตัวเองมีจุดแข็งจุดอ่อนอะไร ลองสำรวจตัวเองดูว่ายังมีจุดไหนที่รู้สึกว่ายังพัฒนาให้ดีขึ้นได้และจุดไหนที่ควรปรับปรุง อาจเริ่มจากทักษะความสามารถที่จำเป็นในการเริ่มต้นทำฟรีแลนซ์ของเราก่อน เช่น หากต้องการเริ่มต้นเป็นฟรีแลนซ์ Developer ด้าน Front-End แต่รู้สึกว่าตัวเองยังขาดทักษะความรู้ด้านการ Design อยู่ ก็อาจเริ่มหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการ Design มา Fill Skill Gaps ตรงนั้น เพื่อให้ผลงานของในการทำงานของเราออกมาดียิ่งขึ้น 

อีกเรื่องนึงที่สำคัญไม่แพ้กันเลย คือ จุดอ่อนทางด้าน Soft Skills ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการบริหารจัดการเวลา ทักษะการสื่อสาร และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น เพราะการเป็นฟรีแลนซ์เราต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งการคุยกับลูกค้า การบริหารเวลาทำงาน หรือการทำงานกับผู้อื่นหากถูกจ้างไปทำงานเป็นโปรเจกต์ระยะสั้นที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม ทำให้ถ้ามีแต่ Technical Skill แต่ขาด Soft Skills ไปก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำฟรีแลนซ์ของคุณได้

3. สร้างโปรไฟล์และแบรนด์

อีกสิ่งที่ต้องรู้ก่อนมาเป็นฟรีแลนซ์ คือ “การทำฟรีแลนซ์ก็ไม่ต่างอะไรจากการสร้างแบรนด์” โดยเฉพาะหากคุณเป็นฟรีแลนซ์ที่มีชื่อเสียงและผลงานดีอยู่แล้วในระดับนึง ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเขื่อถือและไว้วางใจได้ ซึ่งถ้าหากมองในมุมมองของลูกค้าคงไม่มีใครอยากจ้างงานใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จัก แถมยังดูไม่น่าเชื่อถืออีกใช่ไหมล่ะ ซ้ำแล้วโดนทิ้งงานก็มี 

เมื่อเราสามารถสร้างแบรนด์ขึ้นมาได้แล้ว ก็อย่าลืมหลักการ 3 ข้อนี้

  • ทำตัวให้เข้าถึงและหาได้ง่าย: เพราะการที่เราหาได้ง่ายก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะมีคนพบเห็นมากขึ้น
  • ทำตัวให้น่าจดจำ: สร้างเอกลักษณ์ของตัวเองที่น่าจดจำในทางที่ดี
  • สร้างความประทับใจเมื่อได้เจอ: เมื่อได้โอกาส เราก็ควรจะสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า เพราะเมื่อหากเขาต้องการจ้างฟรีแลนซ์ เราก็จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เมื่ออนึกถึง

4. มองหากลุ่ม Community ฟรีแลนซ์

ต้องบอกก่อนว่ากลุ่ม Community ต่าง ๆ ของฟรีแลนซ์ ไม่ได้เป็นแค่แหล่งรวมฟรีแลนซ์เพียงเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มคนที่เป็นลูกค้าหรือนายจ้างอีกด้วย ดังนั้นการมีตัวตนในกลุ่ม Community จึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการหมั่นคอยช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้กับฟรีแลนซ์คนอื่น ในเรื่องที่เราเชี่ยวชาญ ไม่อวดเก่ง หรือว่ากล่าวผู้อื่นก็อาจทำให้เราเป็นที่รักและมี Connection ใหม่ ๆ มากขึ้น เผลอ ๆ หากคุณเป็นคนที่ชอบโพสผลงานลงกลุ่มด้วยแล้ว ลูกค้าบางคนที่กำลังมองหาฟรีแลนซ์อยู่เขาเข้ามาเห็นและชอบผลงานของคุณเขาก็อาจติดต่อมาจ้างคุณโดยตรงเลยก็ได้

5. มี Business Plan เป็นของตัวเอง

จริง ๆ การเป็นฟรีแลนซ์ไม่ต่างกับการเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเอง เพียงแต่มองให้เหมือนธุรกิจที่ย่อขนาดลงมาและมีพนักงานคนเดียวนั้นก็คือเรา ส่วนบรรดาธุรกิจที่จ้างเรานั้น ก็ไม่ต่างอะไรจากลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อบริการที่เราเตรียมเอาไว้ให้ ทำให้การมี Business Plan หรือแผนธุรกิจนั้นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นการทำงานแค่เพียงคนเดียวก็ตาม เพราะมันจะทำให้เรามองเห็นภาพอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งสิ่งที่ควรพัฒนาและปรับปรุง เพื่อการที่จะนำตัวเองไปสู่ฟรีแลนซ์มืออาชีพในอนาคต

6. Money Management เป็นเรื่องสำคัญ

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนมาเป็นฟรีแลนซ์ข้อนึงเลยที่สำคัญมาก ๆ คือ “Money Management” เพราะการทำงานฟรีแลนซ์ไม่เหมือนงานได้ประจำที่เราจะได้รับเงินเดือนในทุก ๆ เดือน แต่ในการทำฟรีแลนซ์คุณอาจต้องประสบกับปัญหาเรื่องงานมาไม่สม่ำเสมอบ้าง ไม่มีงานบ้าง รวมถึงการเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่าง ลูกค้าจ่ายเงินช้า หรือลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงิน ดังนั้น เราควรมีความสามารถในการบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้มีเงินใช้ทุกช่วงเวลาแบบสบาย ๆ

วิธีวางแผนการเงินสำหรับฟรีแลนซ์

  1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน: ให้สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเองจากการจดบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนว่า ต้องเพิ่ม ลด หรือปรับการใช้จ่ายส่วนไหนบ้างในอนาคต
  1. สร้างความปลอดภัยให้ตัวเอง: ควรทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพราะนอกจากจะเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อคนรอบข้างอีกด้วย
  1. เตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน: คนที่เป็นฟรีแลนซ์ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 6 เท่าของเงินเดือนงานประจำ เพราะในช่วงแรกที่ยังไม่มีรายได้เข้ามา เราก็ยังสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกังวัลเรื่องรายได้ในแต่ละเดือน
  1. การแบ่งเงินออมออกเป็นส่วน ๆ: เช่น บัญชีเพื่ออิสรภาพทางการเงิน 15% ของรายได้, บัญชีเงินใช้เล่น 10% ของรายได้ หรือบัญชีเพื่อการเรียนรู้พัฒนาตนเอง 15% ของรายได้ เป็นต้น

7. รับงานกับลูกค้าครั้งแรก

คำว่า “ครั้งแรก” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคยเจอฟรีแลนซ์ก็เช่นกัน ในการรับงานกับลูกค้าครั้งแรกหลายคนที่เป็นมือใหม่อาจยังไม่รู้ว่าสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มรับงานฟรีแลนซ์ รวมถึงการสร้าง First Impression แก่ลูกค้าคนแรกของคุณ 

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนรับงานฟรีแลนซ์ครั้งแรก

  1. เตรียมโปรไฟล์ให้แน่นพร้อมโชว์ประสบการณ์ทำงาน: ต่อมาคงหลีกหนีไม่พ้นการเตรียมพร้อม “Resume/CV” หรือ “Portfolio” ที่จะใช้สำหรับการนำเสนอตัวเองสู่ผู้ว่าจ้าง 
  1. ค้นหาค่าตอบแทนที่เหมาะสม: การค่าตอบแทนที่เหมาะสมสมกับชิ้นงานของเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยศึกษาราคาตลาดในแวดวงที่ทำงาน รวมถึงเป็นการอัปเดตราคาตลาดทั้งฟรีแลนซ์และผู้ว่าจ้างซึ่งจะช่วยให้ได้ราคาที่เป็นกลางและตอบโจทย์มากที่สุด โดยสามารถหาราคาเหล่านี้ได้ตามกลุ่มฟรีแลนซ์ทั่วไป, แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ หรือจากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา 
  1. เรียนรู้วิธีเจรจาอย่างเหมาะสม: การสื่อสารเป็น Soft Skills ที่สำคัญอย่างมากในปี 2566 หากคุณสามารถทำความเข้าใจในเนื้องาน เข้าใจลูกค้า สามารถสื่อสารและเจรจาได้อย่างตรงใจกัน แน่นอนว่า “การรับงานฟรีแลนซ์” ของคุณย่อมผ่านไปอย่างง่ายดายแน่นอน
  2. ต้องมีสัญญาฟรีแลนซ์: สิ่งที่ฟรีแลนซ์มือใหม่มักพลาดและกลายเป็นจุดบกพร่องมากที่สุดนั่นก็คือ “สัญญาการจ้างงาน” เพราะสิ่งนี้จะช่วยครอบคลุมและเป็นเกราะป้องกันสำหรับฟรีแลนซ์มือใหม่อย่างยิ่ง สัญญาการจ้างงานที่ดีนั้นจะต้องครอบคลุมในทุกหัวข้อไม่ว่าจะเป็นขอบเขตการทำงาน จำนวนการแก้ไขงาน วันที่เสร็จสิ้นโปรเจกต์ วันส่งมอบ และจำนวนค่าตอบแทนที่พึงได้ ซึ่งหากไม่มีสัญญาการจ้างงานก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ 

8. การปฏิเสธและถูกปฏิเสธงาน

อีกสิ่งที่ต้องรู้ก่อนมาเป็นฟรีแลนซ์เลยคือ “การปฏิเสธและถูกปฏิเสธงาน” ฟรีแลนซ์มือใหม่ส่วนมากมักจะรับงานมาให้มากไว้ก่อนเท่าที่จะหาได้ เพื่อที่จะได้ขยายฐานลูกค้าโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงกำลังของตัวเองว่าเราทำงานพร้อม ๆ กันหลายงานไหวรึปล่าว ? ซึ่งมันก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์อย่าง คุณภาพงานลดลง, เครียดคิดงานไม่ออก ส่งงานลูกค้าไม่ทัน หรือแม้แต่การถูกลูกค้าปฏิเสธงาน เป็นต้น 

สำหรับฟรีแลนซ์แล้วไม่ใช่ว่าต้องตอบตกลงรับงานลูกค้าอย่างเดียว แต่เราต้องดูด้วยว่าตัวเองเหมาะกับตัวงานนั้นไหมหรือถ้าเกิดรับงานมาเพิ่มจากที่มีอยู่แล้วจะสามารถทำส่งลูกค้าทันรึปล่าว เพราะสุดท้ายตัวคุณเองจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างในฐานะฟรีแลนซ์

9. วางแผนจัดการเรื่องภาษี

ถ้าสำหรับพนักงานประจำการจัดการเรื่องภาษีเป็นสิ่งที่ไม่ต้องกังวลอะไรมากเนื่องจากบริษัทมีการจัดเตรียมเอกสารการเสียภาษีและให้คำแนะนำต่าง ๆ หรือบางบริษัทอาจจะยื่นภาษีให้กับกรมสรรพากรโดยตรง แต่สำหรับฟรีแลนซ์จะต้องเตรียมเอกสารและจัดการด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งทาง Talance ก็ได้จัดเตรียมเนื้อหาเกี่ยวกับการวางแผนจัดการเรื่องภาษีไว้ให้แล้ว เข้าไปอ่านเลย !

ฟรีแลนซ์ยื่นถาษียังไง

10. สุขภาพสำคัญไม่แพ้กับงาน

ไม่ว่างานจะสำคัญแค่ไหนแต่ “สุขภาพ” ของเราก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณป่วยหรือเป็นอะไรขึ้นมางานทั้งหมดที่ทำอยู่ก็จะหยุดชะงัก หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมันอาจส่งผลให้เราไม่สามารถส่งงานให้กับลูกค้าทันเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังอาจกระทบต่อชื่อเสียงในวงการฟรีแลนซ์เราอีกด้วย  

สรุป

สุดท้ายนี้ทาง Talance หวังว่าเนื้อหา 10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเป็นฟรีแลนซ์ ที่ได้นำมาแชร์ในวันนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งฟรีแลนซ์มือใหม่และมือเก่าทุกคนนะครับ และหากคุณสนใจสมัครมาเป็น IT ฟรีแลนซ์บนแพลตฟอร์มของเรา ก็สามารถมัครได้ที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อยากลาออก แต่เจ้านายรั้งไว้ด้วย Counter Offer แบบนี้ควรรับไหม ?

Counter Offer คืออะไร ? ข้อเสนอที่บริษัทปรับให้ เช่นเงินเดือนสวัสดิการต่างๆที่เคยมีให้เพิ่มขึ้นจากเท่าเดิม มีไว้ไม่ให้พน

Jo

08 Sep 2023 | 1 นาทีอ่าน

แจ้งลาออก ต้องบอกล่วงหน้านานแค่ไหน ?

พนักงานหลายๆคนอาจกำลังสงสัยว่าทำไมการลาออกจะต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน แล้วมันต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วันจะสามารถลาออกได้ หรือจร

Jo

04 Sep 2023 | 1 นาทีอ่าน

ทำงานยังไงให้เพิ่ม Productivity ได้ตลอดวัน! พร้อมเคล็ดลับ

ลักษณะการทำงานในปัจจุบันต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีความต้องการสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีประสิทธิภาพของการทำงานเป็นกุญแจ

Jo

22 Jun 2023 | 1 นาทีอ่าน

ทำความรู้จัก user acceptance test (UAT) ทำไมการทดสอบกับผู้ใช้จึงสำคัญ

เมื่อมีการพัฒนาโปรดักต์ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ก็ตาม มีขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ป

Jo

15 May 2023 | 1 นาทีอ่าน

สัญญาฟรีแลนซ์ เรื่องที่ IT Freelancer ควรรู้ ก่อนเริ่มงาน

การทำงานฟรีแลนซ์สาย IT เป็นงานที่อิสระและมีรายได้เข้ามาเยอะ แต่หากคุณไม่มีสัญญา หรือดูรายละเอียดการทำสัญญาระหว่างคุณกับล

Jo

19 Mar 2023 | 1 นาทีอ่าน

Update ! ส่องรายได้ Freelance สาย IT

ส่องรายได้ฟรีแลนซ์ สาย IT ❗️มาดูกันว่ารายได้ของแต่ละสายเป็นอย่างไร 🧐 งานสาย IT เป็นงานที่มีความต้องการในตลาดแรงงานค่อนข้