ดีลงานกับลูกค้า ด้วย 4 เทคนิค สำหรับชาว Freelance Developer

ดีลงานกับลูกค้า ยังไง ให้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ? บ่อยครั้งที่ Freelance Developer มักจะ “ดีลงาน” ด้วยตัวเองเพื่อที่จะสามารถนำความรู้ ความสามารถ ทักษะ และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์หรือซอฟแวร์นั้น ๆ ได้อย่างถ่องแท้ แต่อย่างไรก็ตามการดีลงานกับลูกค้าด้วยตัวเอง โดยไม่ผ่านคนกลางนั้นมักจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาเป็นจำนวนมาก ได้แก่ สโคปงานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือค่าตอบแทนที่ไม่ตรงไปตามกำหนดสัญญาและไม่ตรงเวลา วันนี้ Talance เลยอยากชวนทุกคนมาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่ต้องเตรียมก่อนดีลงานกับลูกค้า

ดีลงานกับลูกค้า สโคปงานต้องชัดเจน

สโคปงานที่ชัดเจนมักจะส่งผลให้งานที่ออกมานั้นรวดเร็วและตรงตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย โดยหากเราสามารถคุยงานกับลูกค้าใช้ชัดเจนก่อนเริ่มงานว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการนั้นมีอะไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนตาม requirement 

อย่างไรก็ตามการดีลงานกับลูกค้าในรูปแบบฟรีแลนซ์นั้นมักจะทำงานร่วมกันกับทีม dev ภายในบริษัทซึ่งควรจะต้องมีการสื่อสารและแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อสามารถที่จะสอบถามความเข้าใจระหว่างการทำงานได้ตลอดเวลาและป้องกันไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

ประเมินระยะเวลาในการทำงาน

ระยะเวลาการทำงานนี้นับเป็นปัญหาที่ฟรีแลนซ์มักเจอบ่อยมากที่สุด จากความยืดเยื้อของโปรเจกต์หรือการแก้ไขงานต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งถูกกดดันด้านเวลาในการพัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่น้อยกว่าความเป็นจริงอยู่มาก ตัวอย่างเช่น การทำโปรเจกต์เว็บไซต์ e-commerce ระดับโลก แต่ให้เวลาในการทำด้วยตัวคนเดียวเพียง 3 วัน

ดังนั้นในการ ดีลงานกับลูกค้า เรื่องของการประเมินระยะเวลาในการทำงานเบื้องต้นนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามหากทั้งสองฝ่ายตกลงกันอย่างเหมาะสมแต่ฟรีแลนซ์กลับไม่สามารถที่ปิดโปรเจกต์ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดนั้นก็จะต้องมีแผนการรับมือและแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ส่งงานได้ทันตามกำหนดเวลาที่วางไว้

ค่าตอบแทนที่เหมาะสม

ค่าตอบแทนที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยฟรีแลนซ์ควรตกลงเรื่องค่าตอบแทนกับผู้จ้างงานให้ลงตัวที่สุด โดยจะต้องไม่กดราคาฟรีแลนซ์จนเกินไปหรือค่าจ้างที่มากจนเกินไปและจะต้องมีกำหนดระยะเวลาในการจ่ายเงินให้ชัดเจนในสัญญาการจ้างงาน 

ทั้งหากมีสโคปงานที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นระหว่างการทำงานหรือระยะเวลาที่ประเมินไว้นั้นไม่เหมาะสม ก็สามารถที่จะแจ้งให้กับลูกค้าทราบได้ทันทีเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันใหม่ และที่สำคัญคือไม่ควรปล่อยปะละเลยหรือแจ้งให้ลูกค้าทราบหลังจากปิดโปรเจกต์ไปเรียบร้อยแล้ว

สัญญา ดีลงานกับลูกค้า

ยิ่งคุณเป็น Freelance สัญญาการจ้างงานหรือสัญญารักษาความลับ (NDA) นั้นยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งการทำสัญญาการจ้างงานที่ดีนั้นควรมีดังต่อไปนี้

• มีความละเอียดและชัดเจน
• เป็นลายลักษณ์อักษร
• ไม่ควรใช้สัญญาปากเปล่า
• ต้องมีฉบับสำเนาให้ฟรีแลนซ์
• ครอบคลุมปริมาณงานและ scope of work
• ค่าตอบแทน วันรับค่าตอบแทน และรูปแบบค่าตอบแทน
• ข้อมูลที่บริษัทอนุญาตให้ใช้ และห้ามใช้หลังจบโปรเจกต์

ทั้งนี้สิ่งที่ฟรีแลนซ์มักพลาดก็คือแม้ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ก็สามารถฟ้องร้องในหลายหลังได้ เช่น การใช้หลักฐานการส่งงาน ก็เพียงพอต่อการฟ้องบังคับผู้จ้างให้ชำระเงิน แต่อาจไม่ตรงกับที่ตกลงไว้แต่แรก เนื่องจากไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเนื้องานต้องเป็นอย่างไร ค่าจ้างเท่าไหร่ ภายในระยะเวลาใด ฉะนั้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้ ก็ต้องทำสัญญา และระบุอย่างละเอียดทั้งเนื้องาน ปริมาณ ค่าตอบแทน ระยะเวลาการส่งงาน หรือการจ่ายค่าตอบแทนเช่นกัน

แน่นอนว่าต่อให้ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็สามารถที่จะฟ้องร้องในภายหลังได้ แต่จะดีกว่าไหมหากฟรีแลนซ์ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย รวมถึงได้ทำงานและค่าตอบแทนอย่างสบายใจดังนั้นสัญญานั้นป็นเรื่องเหมือนทั่ว ๆ ไป แต่หลาย ๆ คนไม่ชอบทำ โดยเฉพาะ dev เพราะคิดว่าปากเปล่าก็พอ แต่ในความเป็นจริงมันเกิดการเบี้ยวขึ้นได้ ซึ่งแม้ผู้ว่าจ้างจะเป็นคนที่สนิทแค่ไหนก็ควรระบุให้ชัดเจน

หวังว่าบทความนี้จะสามารถตอบคำถามได้ว่าเป็น Freelance ต้องดีลงานยังไง ลองนำเทคนิคที่เราเอามาฝากวันนี้ไปใช้กับการดีลงานครั้งต่อ ๆ ไปนะครับ เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาน่าปวดหัวลงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว หรือถ้าอยากดีลงานกับลูกค้าแบบไม่ปวดหัว มาสมัครเป็น Freelance Developer กับ Talance ได้เลยครับ เราพร้อมให้คำปรึกษาทุก ๆ เรื่องเลยนะ